
คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางทั้งของแคนาดา หรือ Bank of Canada และอังกฤษ Bank of England สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของแคนาดาเมื่อวานนี้ (ศุกร์) และแถลงทันทีว่า เขาสามารถทำงานร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งให้คำมั่นว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ที่อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของแคนาดา โดยคาร์นีย์เข้ารับตำแหน่งต่อจากจัสติน ทรูโดที่มีความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งและเย็นชากับทรัมป์ คาร์นีย์ วัย 59 ปี ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าแนวทางของเขาจะแตกต่างออกไป
เขากล่าวกับนักข่าวหลังสาบานตนว่า “เราเคารพประธานาธิบดีทรัมป์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้นำประเด็นสำคัญบางประเด็นมาไว้ในวาระสำคัญของเขา ซึ่งเราเข้าใจได้” พร้อมระบุว่า เขาเคยร่วมงานกับทรัมป์ในการประชุมระหว่างประเทศ

สรุปข่าว
คาร์นีย์ บอกว่า “ในหลาย ๆ ด้าน ประสบการณ์ส่วนหนึ่งของเขามีความคล้ายคลึงกับของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั่นคือ เราต่างก็ดูแลประเทศของเราเอง แต่ทรัมป์รู้ดี และเราก็รู้จากประสบการณ์ที่ยาวนานว่า เราสามารถหาทางออกร่วมกันที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับประโยชน์”
คาร์นีย์ ซึ่งกล่าวว่าเขาไม่มีแผนที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ในเร็ว ๆ นี้ ยังได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า การที่รัฐบาลทรัมป์พูดคุยถึงการผนวกแคนาดาเข้ากับสหรัฐฯนั้น "เป็นเรื่องบ้าบอ" เขาย้ำว่า แคนาดาจะไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ในการแถลงครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ซึ่งกำลังเผชิญความขัดแย้งกับทรัมป์ กรณีสงครามการค้าที่กำลังทวีความรุนแรง กล่าวว่า เขา “คาดหวังความเคารพ” จากอเมริกา และเรียกถ้อยแถลงล่าสุดของมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เกี่ยวกับรัฐที่ 51 ว่า “บ้าบอ”

Natnicha Nijpol
(Natnicha)