กองทัพอิสราเอลเผยแพร่รายงานอย่างเป็นทางการ “ครั้งแรก” เกี่ยวกับความผิดพลาดของระบบป้องกันภัยที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมร้ายแรงในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 เมื่อนักรบฮามาสประมาณ 5,000 คน บุกเข้าโจมตีในอิสราเอลจนมีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน และมีชาวอิสราเอล รวมไปถึงชาวต่างชาติที่ถูกจับเป็นตัวประกันไปมากถึง 251 คน โดยจากเหตุนี้ยังทำให้เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่ยืดเยื้อมาปีกว่าจนถึงปัจจุบัน
รายงานดังกล่าวมีทั้งสิ้น 19 หน้ากระดาษที่ได้ระบุไว้ว่ากองกำลัง IDF ทำงานบกพร่องในการปกป้องชีวิตของชาวอิสราเอล สำนักข่าว BBC เผยว่า แม้ว่าในรายงานจะไม่มีส่วนใดที่ดูเกินความคาดหมายมากนัก แต่รายงานฉบับนี้สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่ากองทัพอิสราเอลประเมินความสามารถของกลุ่มฮามาส “ต่ำเกินไป” อีกทั้งยังคาดการณ์การกระทำของฮามาสผิดเช่นกัน
ในรายงานระบุด้วยว่าฉนวนกาซาเป็นเป้าหมายเฝ้าระวังอันดับที่ 2 ของกองทัพอิสราเอล ในขณะที่อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์คือเป้าหมายเฝ้าระวังอันดับหนึ่งของอิสราเอล จึงทำให้ความสนใจต่าง ๆ รวมไปถึงศักยภาพในการป้องกันภัยของอิสราเอลถูกแบ่งไปทางอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์มากกว่ากลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งในตอนแรกอิสราเอลได้ให้คำจำกัดความกลุ่มฮามาสไว้ว่าเป็น “ความขัดแย้ง และ ผิดกฎหมาย” อิสราเอลยังระบุไว้ด้วยว่าฮามาสไม่มีความสนใจหรือเตรียมพร้อมสำหรับก่อสงครามขนาดใหญ่กับอิสราเอล
สรุปข่าว
รายงานฉบับนี้เผยด้วยว่าจากหลักฐานในปี 2018 ที่ชี้ว่ากลุ่มฮามาส ซึ่งสหรัฐฯ อิสราเอล และ อังกฤษ จัดให้เป็น “กลุ่มก่อการร้าย” กำลังพัฒนาแผนการโจมตีครั้งใหญ่ แต่ในตอนนั้นแผนดังกล่าวถูกชาติตะวันตกมองว่าไม่สมจริงและไม่มีทางเป็นไปได้ กระทั่งหลายเดือนก่อนเกิดเหตุในวันที่ 7 ตุลาคม ผู้อำนวยการด้านข่าวกรองของอิสราเอลได้ประเมินขีดความสามารถฮามาสใหม่ โดยได้ชี้ให้เห็นอันตรายจากแผนปฏิบัติการของฮามาสที่เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าเดิมและมันไม่ใช่แค่วิสัยทัศน์หรือเป็นเพียงกรอบความคิดที่ดูเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป แต่คำเตือนของหน่วยข่าวกรองกลับไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอิสราเอล
รายงานระบุว่า อิสราเอลไม่เคยมีการประชุมหารือเรื่องแผนของฮามาสและไม่เคยมีใครตั้งคำถามหรือสนใจตอบว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากการประเมินฮามาสที่ต่ำเกินไปนั้นเป็นความผิดพลาด จนเวลาล่วงเลยไป ช่องว่างของแผนฮามาสกลับถูกเติมเต็มจนถูกพัฒนาและกลายเป็นจริงขึ้นมา ตอกย้ำว่ากองทัพล้มเหลวในการแจ้งเตือนภัยกับประชาชนก่อนถึงวันที่ 7 ตุลาคม
ขณะที่คำยอมรับผิดจากฝ่ายสอดส่องสถานการณ์ในฉนวนกาซาของกองทัพอิสราเอล ก็ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ พวกเขากล่าวว่าการพ่ายแพ้ต่อการบุกโจมตีของฮามาสหลายชั่วโมงในวันที่ 7 ตุลาคม ทำให้ความสามารถในการเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพลดลงอย่างมากไปพร้อม ๆ กัน แม้ว่ากองทัพอากาศอิสราเอลจะตอบโต้กับการโจมตีอย่างรวดเร็วแต่ว่าการต่อสู้ภาคพื้นดินมีความซับซ้อนจนแยกแยะไม่ออกว่าใครคือเจ้าหน้าที่ของ IDF พลเรือนอิสราเอล หรือ สมาชิกฮามาส จึงทำให้ในวันนั้นมีทหารที่บาดเจ็บถูกอพยพออกก่อนพลเรือนเพราะความผิดพลาดในการแยกกลุ่มคน
จากความผิดพลาดของอิสราเอล หลายคนพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้ที่ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดใดที่ละเลยคำเตือนจนทำให้ฮามาสบุกเข้ามาทำร้ายพลเรือน เนทันยาฮูเคยให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าในช่วงสงครามแบบนี้ การจะให้เขาออกมาแสดงความรับผิดชอบ ควรรอหลังจากสงครามสิ้นสุดลงเสียก่อน แม้ว่าก่อนหน้านี้เฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลจะประกาศลงจากตำแหน่งรับผิดชอบต่อความล้มเหลวครั้งใหญ่ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2023
อ้างอิงจาก: https://www.bbc.com/news/articles/cyvee8vr7l1o
ฑิตยา เที่ยงกมล