มาครง เดินทางถึงทำเนียบขาวเพื่อเจรจากับทรัมป์ โดยทั้งคู่ได้หารือถึงแนวโน้มในการยุติสงครามในยูเครน ท่ามกลางความเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเกี่ยวกับวิธีที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งมาครงกลายเป็นประเทศยุโรปคนแรกที่เข้าหารือกับทรัมป์ ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2 เมื่อเดือนที่แล้ว เขาอยู่ที่ทำเนียบขาวเพื่อประชุมในช่วงเช้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งรวมถึงผู้นำทั้ง 2 เข้าร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้นำจี7 เกี่ยวกับยูเครนด้วย
มาครง กล่าวว่า ยุโรปมีบทบาทในการให้การรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน ระหว่างหารือกับทรัมป์ มาครง กล่าวว่า ต้องมีการเจรจาสงบศึกเสียก่อน จากนั้นจึงทำข้อตกลงสันติภาพโดยต้องมีการรับประกันด้านความมั่นคงในยูเครน ซึ่งหลังจากหารือกันเสร็จแล้ว ทั้งคู่ได้แถลงข่าวร่วมกันที่ทำเนียบขาว ซึ่งบรรยากาศการแถลงข่าวเป็นกันเองมากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ทั้งทรัมป์และมาครง มีการหัวเราะ มีการยิ้มให้กัน ซึ่งทางมาครงบอกว่า ทางฝรั่งเศสหวังว่าสหรัฐฯ จะยังคงให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงกับยูเครนและช่วยยูเครนต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของตัวเองต่อไป ในส่วนของการเจรจายุติสงครามยูเครน มาครงบอกว่าสันติภาพที่เกิดขึ้นต้องไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้ของยูเครน
สรุปข่าว
ส่วนทางทรัมป์ก็บอกว่า เขาขอให้ยุโรปรับผิดชอบมากขึ้นในส่วนเรื่องความมั่นคง ซึ่งเป็นจุดยืนที่ทรัมป์แสดงออกมานานแล้ว ว่าหลายประเทศในยุโรปยังไม่มีบทบาทในเรื่องความมั่นคง รวมทั้งออกเงินมากเท่าที่ควรเพื่อรักษาสันติภาพ
แม้จะมีความคิดเห็นและจุดยืนที่แตกต่างกัน แต่ผู้นำทั้งสองคนก็ยืนยันว่าการพบปะกันครั้งนี้ เป็นไปด้วยดี และมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจ