เราทุกคนกำลังอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของสงครามการค้าโลก ที่รุนแรงขึ้นทุกวินาที จากการตอบโต้ไปมาระหว่างมหาอำนาจ สหรัฐ และจีน ที่ต่างฝ่ายต่างขอสู้ถึงที่สุด ทำให้ตอนนี้มีกำแพงภาษีสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์ สูงที่สุดในรอบ 100 ปี
จุดเริ่มต้นมาจากนโยบายของผู้นำสหรัฐ ที่ชื่อทรัมป์ ที่ประกาศศักดานับตั้งแต่วันที่รับตำแหน่ง ว่าจะขอทำให้อเมริกากลับสู่ยุคทอง กลับมาร่ำรวยอีกครั้ง โดยอ้างว่าที่ผ่านมาสหรัฐได้ทำการค้าแบบเสียเปรียบกับทุกชาติในโลก ดังนั้นวันนี้ถึงเวลาต้องปลดแอก ขึ้นภาษี รีดเงินกับทุกคนทุกชาติ ไม่เว้นแต่เพื่อนบ้านหรือพันธมิตร เพื่อหารายได้เข้าประเทศ
สรุปข่าว
ย้อนกลับไปนับตั้งแต่วันที่ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อ 20 มกราคม มาจนถึงปัจจุบันนี้ แม้จะเป็นเวลาแค่ 3-4 เดือน แต่ทรัมป์ก็ได้เดินหน้านโยบายการค้าเชิงรุก ด้วยการใช้ "ภาษีศุลกากร" เป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งหวังจะบีบให้ประเทศคู่ค้าเข้ามาเจรจาต่อรองเพื่อผลประโยชน์ที่อเมริกาต้องการ โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเม็กซิโก แคนาดา และที่สำคัญ คือ การพุ่งเป้าไปที่ "จีน" ซึ่งสหรัฐฯ ขาดดุลการค้ามหาศาล ทรัมป์ขึ้นภาษีจีนหลายครั้ง และจีนก็ตอบโต้ทุกครั้ง
หลายพื้นที่ของสหรัฐอเมริกามีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้น มีรายงานว่าประชาชนชาวอเมริกันนับล้านออกมาต่อต้านสิ่งที่ผู้นำของเค้าทำ และทำลายทรัพย์สินของเทสลา เนื่องจากเป็นของอีอลน มัสก์ มือขวาคู่ใจของทรัมป์ นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าผู้คนเริ่มแห่ซื้อสินค้ากักตุน ตั้งแต่ของกินของใช้ ไปจนถึงของใหญ่ เช่น รถยนต์ รถกระบะ โทรศัพท์ไอโฟน สินค้าของแอปเปิ้ล เพราะคาดว่าราคาแพงขึ้นหลายเท่าตัวจากผลการขึ้นภาษีใหม่
ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH
ที่มารูปภาพ : CANVA

ทิฆัมพร อยู่กำเหนิด