นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังวางแผนที่จะปรับปรุงกองทุนรวม LTF ใหม่ อาจจะเป็นโอนของเดิมที่มีอยู่หรือจัดตั้งขึ้นมาใหม่ จากปัจจุบันที่มี LTF มูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท มาตั้งเป็นอีกกองทุนที่อยู่ใน Thai ESG
โดยนายพิชัย กล่าวว่า
“คนที่จะขาย จะได้หยุดคิดว่า ไม่ขายดีหรือไม่ เพราะว่าถ้าอยู่ใน Thai ESG ก็จะได้ประโยชน์อีกครั้งหนึ่ง เช่น 5 ปี เป็นต้น เรากำลังดูอยู่ให้กี่ปีดี จะรีบออกมาโดยไว และหุ้นก็ลงเยอะ เมื่อมาลงอยู่ Thai ESG ก็ยังได้ประโยชน์ทางภาษี ก็จะปรับปรุง LTF โดยจะตั้ง Thai ESG อีกสักกอง เพื่อให้มาลงฝั่งนี้แทน ก็ฝากให้นักลงทุนลองพิจารณาดู”
สรุปข่าว
ขณะที่ความคืบหน้าของ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ระยะที่ 3 หรือ ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 นั้น นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนระบบ เมื่อเห็นว่ามีความมั่นใจในระบบก็จะเร่งเดินหน้าในการประชุมทันที โดยจะดำเนินการคู่ขนานกันไป หากระบบเกิดความชัดเจนก็จะทราบได้ว่าจะจ่ายเงินได้อย่างไร จ่ายไปยังกลุ่มใด และจะสามารถทราบวันคร่าวๆ ที่จะจ่ายได้
นอกจากนี้ยังตอบนักข่าวถึงความคืบหน้าในการออกพันธบัตรดิจิทัล หรือ “บอนด์คอยน์” ว่า เป็นกลไกธรรมดาที่รัฐบาลได้มีการออกพันธบัตรอยู่แล้วให้รายย่อยได้ลงทุน ซึ่งนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ก็เก็บไว้ในลิ้นชัก แต่ครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มทางเลือก ซึ่งแทนที่จะเก็บไว้ในลิ้นชัก แต่สามารถใส่ไว้ในวอลเล็ตที่สามารถเข้าระบบแลกเปลี่ยนได้ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่ง โดยขณะนี้หลายประเทศก็เริ่มคิด เริ่มทำกันแล้ว