
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,882.32 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในไทยก็ทำราคาสูงสุดใหม่ที่ 45,650 บาทต่อบาททองคำในวันถัดมา ยังมีลุ้นเห็น 50,000 บาทต่อบาททองคำ หากค่าเงินอ่อนค่าต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวนี้เกิดจากความกังวลในความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์
ปัจจัยที่ผลักดันราคาทองคำขึ้น
ความกังวลที่เกิดขึ้นจากนโยบายการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ตั้งกำแพงภาษีการค้านำเข้ากับหลายประเทศ รวมถึงพันธมิตรสำคัญ เช่น แคนาดา และประเทศในยุโรป ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะยังคงสูงและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ทองคำได้รับความนิยมในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

สรุปข่าว
ผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์
นโยบายการตั้งกำแพงภาษีไม่เพียงแค่กระทบกับประเทศคู่ขัดแย้งอย่างจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐด้วย ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทั้งในด้านสงครามการค้า เงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่ทำให้ตลาดการเงินโลกมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง
ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความขัดแย้ง
นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกรณีของการบริหารฉนวนกาซาและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งสร้างความกังวลในภูมิภาคและมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนที่มองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลานี้
คำแนะนำการลงทุนจาก YLG
วายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำรอจังหวะที่ราคาทองคำย่อตัวเพื่อเข้าซื้อ โดยให้แนวรับในการเก็งกำไรระยะสั้นที่ 2,844 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวรับหลักที่ 2,830-2,811 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งมีโอกาสทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด