SCB EIC คาด"แผ่นดินไหว" กระทบเศรษฐกิจ 30,000 ล้านบาท

นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ที่ระดับร้อยละ 2.4 ส่วนสิ่งที่ต้องจับตา คือ ผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ และการที่สหรัฐฯ จะประกาศนโยบายปรับขึ้นภาษีในวันที่ 2 เม.ย.นี้

         

SCB EIC คาด"แผ่นดินไหว" กระทบเศรษฐกิจ 30,000 ล้านบาท

สรุปข่าว

SCB EIC ประเมิน "แผ่นดินไหว" ทำเศรษฐกิจเสียหายกว่า 30,000 ล้านบาท พร้อมจับตาท่องเที่ยวเดือน เม.ย. ภาคอสังหาฯ ภาษีสหรัฐฯ กดดันเศรษฐกิจ

โดยมองว่าเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าราว 30,000 ล้านบาท ใน 3 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ 1.ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการยกเลิกการจองห้องพักและตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นผลกระทบได้ชัดเจนที่สุดในเดือนเม.ย.นี้ จากนั้นจะค่อยคลี่คลายและกลับเข้สู่ภาวะปกติได้ในราว 3-4 เดือนถัดไป

ในกรณี base case เรามองว่าเหตุแผ่นดินไหว อาจทำให้ยอดนักท่องเที่ยวหายไปราว 400,000 คน ซึ่งจะเห็นชัดสุดในเดือนเม.ย.นี้

2.ภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดฯ ที่จะทำให้ยอดจองและยอดโอนชะลอออกไปก่อน คาดว่ามูลค่าการโอนอสังหาฯ ในกทม. จากที่โตเล็กน้อย อาจจะติดลบราว ร้อยละ 1 ในปีนี้

และ 3.การใช้จ่ายและการบริโภคกลุ่มสินค้าคงทน เช่น รถยนต์


          





ส่วน เครื่องยนต์หลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงเป็นภาคการท่องเที่ยว จากที่คาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยอยู่ที่ราว 38.2 ล้านคน แต่เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวล่าสุดอาจทำให้ต้องทบทวนตัวเลขใหม่อีกครั้ง 

สำหรับผลกระทบของเศรษฐกิจไทย จากนโยบายปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐนั้น นายยรรยง มองว่า ในระยะสั้นอาจทำให้เกิดความผันผวนต่อทั้งตลาดเงินและตลาดทุน แต่ระยะต่อไปเชื่อว่าภาครัฐจะมีการเจรจาต่อรองกับสหรัฐเพื่อให้มาตรการที่สหรัฐจะนำออกมาใช้ในระยะต่อไปนั้นมีผลกระทบต่อไทยให้น้อยที่สุด

ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีผลกระทบต่อ GDP ของไทยราวร้อยละ 1 ในกรณีที่สินค้าไทยถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เนื่องจากไทยส่งออกไปสหรัฐในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับภาคส่งออกมีน้ำหนักต่อ GDP ค่อนข้างมาก

ที่มาข้อมูล : SCB EIC

ที่มารูปภาพ : TNN

avatar

นันท์ชยา ชื่นวรสกุล

แท็กบทความ