นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีการเดินหน้าโอนเงินดิจิทัล วอลเล็ต ระยะ 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี ซึ่งใช้งบประมาณ 27,000 ล้านบาท ได้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า สามารถนำไปซื้อบุหรี่ได้ แต่ไม่สามารถนำไปจ่ายค่าเทอม ค่าน้ำค่าไฟไม่ได้นั้น
นายพิชัย กล่าวว่า เราคงไม่ให้ดิจิทัล วอลเล็ต ไปซื้อเหล้าในร้านขายเหล้า ซื้อทองในร้านทองโดยตรง แต่ปัจจุบันมีร้านค้าขนาดเล็กที่ขายของร้อยละ 90 และมีมุมเล็กๆ ขายสินค้าเหล่านั้นเท่านั้น ก็คงจะห้ามไม่ได้ และถือว่าสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้อยู่
ส่วนระบบแพลตฟอร์มการใช้จ่ายนี้ หากอนาคตเชื่อมต่อแอปพลิเคชันทางรัฐ ก็จะสามารถดูได้ว่า มีการซื้อสินค้าประเภทใดบ้าง แต่ตอนนี้ระบบดังกล่าวยังเชื่อมไม่ถึง
สรุปข่าว
ส่วนเรื่องการจ่ายค่าเทอมนั้น มองว่าถ้าเราให้เงินไปซื้อสินค้า ก็หมายความว่า เงินไปจ่ายค่าเทอมก็จะมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของการจัดสรรเงินให้เหมาะสม
ส่วนกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน ผ่านการออกกองทุน Thai ESGX นั้น ใกล้ปิดตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.68) ดัชนีหุ้นก็กลับมาเป็นบวกเล็กน้อย
นอกจากนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย ด้วยการออกกฎหมาย พ.ร.ก. ให้อำนาจสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อดูแลเรื่องเร่งด่วน โดยมีอำนาจสอบสวนคดีอาญา และดูแลนักลงทุนรายย่อย คาดว่าจะได้ข้อสรุป ไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอ ครม. อนุมัติต่อไป เพื่อให้ พ.ร.ก. เอาผิดทางกฎหมายกับผู้ลงทุนในทางมิชอบได้รับการลงโทษ หากทำผิดและทำให้เกิดความเสียหายกับนักลงทุน