"Prada" จ่อปิดดีลซื้อ "Versace" ด้วยมูลค่า 53,260 ล้านบาท l การตลาดเงินล้าน

การที่ Prada เข้าซื้อกิจการ Versace จะช่วยสร้างบริษัทที่มีฐานที่มั่นที่กว้างขึ้นและต้านทานต่อวัฏจักรธุรกิจได้ดีขึ้น แต่การฟื้นคืนชีพแบรนด์เป้าหมายอาจต้องใช้เวลาหลายปีและอาจกระทบผลกำไรในระยะสั้นได้ โดย Prada กำลังหาแนวทางขยายการเติบโตหลังยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 9 เดือนสุดท้ายของปี 2024 แม้ว่าความต้องการจะชะลอตัวลง ขณะที่ Versace ดำเนินงานขาดทุน การควบรวมกิจการจะเป็นการผนึกกำลังของอิตาลีต่อกลุ่มบริษัทฝรั่งเศสที่ครอบงำธุรกิจสินค้าหรูอยู่ในขณะนี้

เมลาเนีย กริปโป นักวิเคราะห์จาก BNP Paribas กล่าวในบันทึกเมื่อวันจันทร์ว่า Versace จำเป็นต้องปรับโครงสร้างใหม่ และมีประวัติการบริหารจัดการที่ผิดพลาดซึ่งไม่มีทางแก้ไขได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Versace จะช่วยเร่งการเติบโตให้กับกลุ่มได้

สรุปข่าว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มสินค้าหรูของอิตาลี Prada ใกล้จะปิดดีลเข้าซื้อกิจการ Versace แบรนด์หรูสัญชาติเดียวกันจาก Capri Holdings หลังจากตกลงชำระเงินเกือบ 1,500 ล้านยูโร หรือประมาณ 53,260 ล้านบาท นับเป็นการผนึกกำลังสู้กับกลุ่มแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสที่น่าจับตา

ด้านมาริโอ ออร์เทลลี ผู้จัดการหุ้นส่วนของบริษัทที่ปรึกษาสินค้าหรูหรา Ortelli & Co กล่าวว่าขนาดมีความสำคัญ พร้อมชี้ให้เห็นว่า Prada ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาด 22,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯนั้นมีขนาดเพียงเศษเสี้ยวของขนาดบริษัทยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสอย่าง LVMH และ Kering 

แหล่งข่าวกล่าวว่า Capri Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของ Versace ได้ซื้อกิจการ Versace ไปเมื่อกว่า 6 ปีที่แล้วด้วยเงิน 1,800 ล้านยูโร ขณะนี้กำลังทำงานร่วมกับ Barclays เพื่อสำรวจการขายแบรนด์ดังกล่าว ซึ่งก่อตั้งโดย จิอานนี เวอซาเช่ ผู้ล่วงลับในช่วงทศวรรษ 1970 โดยน้องสาวของเขา โดนา เทลลา ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์มานานกว่าสองทศวรรษ

ขณะที่ Prada ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกงควบคุมโดย มิวเชีย ปราดา นักออกแบบ และสามีของเธอ แพทริซิโอ เบอเตลลี มีทักษะที่เหมาะสมในการแก้ไขข้อบกพร่องของ Versace ในด้านการผลิต กลยุทธ์การตลาด และการบริหารร้านค้าที่เป็นเจ้าของโดยตรง นอกจากนี้ยังมีทักษะด้านสินค้าเครื่องหนังที่จำเป็นในการพัฒนาส่วนธุรกิจดังกล่าว 

ออร์เทลลี กล่าวอีกว่า Versace ยังไม่ได้แสดงศักยภาพทั้งหมดที่มีภายใต้การบริหารของ Capri แต่ Prada มีคุณสมบัติสำหรับการปั้นแบรนด์ครั้งใหม่ โดย Versace ที่โดดเด่นด้วยสุนทรียศาสตร์แบบแมกซิมอลลิส (maximalist) จะสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้มาสู่ Prada ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องสไตล์มินิมอลได้

ซูซี่ ทิบาลดี นักวิเคราะห์ของ UBS กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า ความสนใจของ Prada ใน Versace อาจเกิดขึ้นจากความต้องการที่จะทำให้ธุรกิจมีความเฉพาะด้านน้อยลงจากมุมมองด้านแฟชั่น เนื่องจากจะดึงแบรนด์ที่มีโปรไฟล์ที่แตกต่างอย่างมากเข้ามามีส่วนร่วม

ทิบาลดี กล่าวอีกว่าการพลิกฟื้น Versace อาจต้องใช้เวลาหลายปี เพราะยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องสร้างขึ้นใหม่ โดยอ้างถึงส่วนลดมากมายของ Versace และสินค้าหลากหลายประเภท ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นสินค้าหรูหรา