ชาวเยอรมันค่าครองชีพพุ่ง ช็อปปิงปลายปีน้อยลง

สรุปข่าว

ธุรกิจค้าปลีกในเยอรมนีกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส หลังยอดขายในเดือนธันวาคม 2567 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญของการจับจ่ายใช้สอย

สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งเยอรมนี (Handelsverband Deutschland) เคยคาดการณ์ว่าตลาดเยอรมนีจะมียอดขายสินค้าสินค้าช่วงปลายปีตั้งแต่เดือนพ.ย.-ธ.ค. 2567 ประมาณ 1.21 แสนล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 แต่จากรายงานผลการสำรวจบริษัทผู้ค้าปลีกในเยอรมนี 300 บริษัท พบว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลคริสต์มาสลดลงจากปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุสำคัญมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และผลกระทบจากวิกฤตพลังงานที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าตกแต่งบ้าน

แม้จะมีความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันของเยอรมนี แต่ธุรกิจบางกลุ่มสินค้ายังคงมีผลประกอบการที่ดี อาทิ น้ำหอม เครื่องสำอาง นาฬิกาและเครื่องประดับ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น ตรงนี้สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังคงมองหาสินค้าที่มีคุณค่าและคงทน ยอมจ่ายซื้อสินค้าในราคาที่แพงแต่คุณภาพดีแม้ในช่วงเวลาที่เศรษกิจยากลำบาก 

นอกจากนี้ ธุรกิจสินค้าของเล่นและสินค้าสำหรับเด็ก หนังสือ เครื่องใช้ในครัวก็มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยผู้บริโภคยังคงมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสุขให้กับครอบครัวในช่วงเทศกาลสำคัญ

ผู้ค้าปลีกหลายรายในเยอรมนี ระบุว่าในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ท้าทายที่สุดในรอบหลายปี โดยผู้บริโภคเลือกที่จะใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลให้ร้านค้าโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทั่วไปต้องแข่งกันลดราคาหรือจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างดุเดือด

 เทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภค และเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่อาจเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนมากขึ้น

ด้วยค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคในเยอรมนีกำลังประสบปัญหาทางการเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการเปิดเผยจากฝ่ายวิจัยทางเศรษฐกิจของสถาบัน Creditreform ของเยอรมนีว่า  จำนวนครัวเรือนที่เป็นหนี้สูงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น และคาดว่าทั้งปี 2568 การล้มละลายของภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะความเครียดทางการเงินสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยจะทยอยเพิ่มขึ้น

คนเยอรมันต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งจ่ายค่าเช่า จ่ายค่าพลังงาน และจ่ายอาหาร โดยพบว่าราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องมีการปรับขึ้นราคาอย่างมาก

จากรายงานของสำนักงานสถิติประจำประเทศเยอรมนี ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีของปี 2567 ของเยอรมนีอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ร้อยละ 2 โดยเงินเฟ้อที่สูงขึ้นดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 โดยสินค้าจำพวกอาหาร และบริการยังคงเป็นตัวการหลักขับเคลื่อนราคาทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังผู้บริโภคต้องจ่ายค่าสินค้าบริโภคเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่น 

เนยมีราคาแพงขึ้นเกือบ ร้อยละ 39 

ราคาสินค้าบริการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4

 ค่าประกันภัยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.6 

ค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.4

 การใช้บริการในร้านอาหาร เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.7

ค่าเช่าสุทธิ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.1 

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2568

นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัทค้าปลีกหลายแห่งต่างก็กำลังวางแผนขึ้นราคาสินค้าอีกครั้ง ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากกังวลพวกเขาจะไม่สามารถจ่ายค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปี 2568  และจากผลการสำรวจประชากร 1,001 คน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเยอรมนี โดยสถาบัน Forsa ในนามของสมาพันธ์คุ้มครองผู้บริโภค (VZBV – Verbraucherzentrale Bundesverband) พบว่า เมื่อผู้บริโภคถูกถามว่า พวกเขาประเมินสถานการณ์ทางการเงินของตนในปี 2568 ไว้อย่างไร หลังจากที่พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพ และค่าพลังงานที่สูง “ร้อยละ 27 ระบุว่า พวกเขาต้องใช้เงินออม ถอนเงินในบัญชีกระแสรายวันด้วยเงินเบิกเกินบัญชีหรือใช้ทางเลือกทางการเงินอื่น ๆ  มาใช้จ่าย ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่ กังวลเรื่องสินค้าปรับขึ้นราคาสูงเกินไป และก็ยังกังวลใจเกี่ยวกับความไม่แน่นอนกับอนาคตว่าต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการเงินเพิ่มเติมในปี2568 นี้  เพราะคาดว่าในปี นี้การว่างงานจะเพิ่มขึ้น  โดยงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูง โดยเฉพาะใน ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจยานยนต์ หรือเคมีภัณฑ์ เป็นตำแหน่งงานที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเลิกจ้างมากที่สุด”

สมาพันธ์คุ้มครองผู้บริโภค ระบุว่า บ่อยครั้งที่ไม่มีชัดเจนว่า ราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นเกิดจากอะไร จึงมีการเรียกร้องให้มีการตั้งหน่วยงานที่คอยสังเกตการณ์ราคาและทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมนี้ และทำหน้าที่ปกป้องผู้บริโภคจากการปรับราคาที่สูงมากเกินไปในซูเปอร์มาร์เก็ต และหลายคนกลัวเมื่อจะต้องกล่าวว่าจะหาเงินมาจ่ายบิลค่าไฟฟ้าครั้งต่อไปอย่างไร โดยมีการเรียกร้องให้รัฐบาลกลางเยอรมันลดภาษีไฟฟ้าให้เหลือเท่ากับขั้นต่ำของสหภาพยุโรป เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนที่กำลังสูงขึ้น

 

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

เยอรมันเยอรมนี
business watch
คริสต์มาส
ช็อป