สรุปข่าว
นายประทีป สันติวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท สร้างโรงงาน จังหวัดนครสวรรค์ จากปัจจุบันมี 3 แห่ง คือ สมุทรปราการ อยุธยา และนครราชสีมา มีกำลังการผลิตรวมกว่า 1,550 ตันรำข้าวต่อวัน ทำให้สามารถผลิตน้ำมันรำข้าวดิบได้ 88,000 ตันต่อปี
ส่วนโรงกลั่นมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ประมาณ 350 ตันน้ำมันดิบต่อวัน สามารถผลิตน้ำมันสำเร็จรูปได้ 60,000 ตันต่อปี และเพื่อจะขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต บริษัทเตรียมลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานสาขา จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการวัตถุดิบ และมีแผนการลงทุนในการพัฒนาเครื่องจักรให้ทันสมัย
สำหรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจหลัก ๆ มี 3 ส่วน คือ เตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตของคู่ค้าและความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ,การลงทุนด้าน R&D และการวิจัยตลาดเพื่อพัฒนาสินค้าใหม่สำหรับตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ และการให้ความสำคัญกับการสื่อสารทางการตลาดที่ต้องเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ
ส่วนสิ้นปีนี้บริษัทคาดการณ์ว่าจะปิดรายได้ที่ 8,300 ล้านบาท มาจาก 2 ส่วนหลัก คือ ฟู้ดและน้ำมันรำข้าวร้อยละ 35 (ในประเทศ 64% ส่งออก 36%) และอาหารสัตว์ร้อยละ 65
ปัจจุบันตลาดรวมน้ำมันพืช มีมูลค่า 25,000-26,000 ล้านบาท เติบโตไม่เกินร้อยละ 5 เพราะครัวเรือนทำอาหารน้อยลง ซึ่งในตลาดดังกล่าว กลุ่มใหญ่เป็น น้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลือง ส่วนน้ำมันรำข้าวมีมูลค่าอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท โดยคิงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ร้อยละ 85
ที่มาข้อมูล : -