แจกเงินหมื่นดิจิทัล เฟส 3 จับตา "นายกฯ" นัดประชุมบอร์ดกระตุ้นศก. วันนี้

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 เวลา 10.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดย วาระหลักเป็นการพิจารณาการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3 - 3.5 ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ 

โดยจะมีการพิจารณาอนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเติมเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ให้กับกลุ่มนำร่อง คือ กลุ่มอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มสามารถเรียนรู้ระบบได้เร็ว จำนวน 3 ล้านคน วงเงิน 30,000 ล้านบาท จากทั้งโครงการที่ใช้เงิน 1.5 แสนล้าน จำนวน 15 ล้านคน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า การที่ดำเนินการกลุ่มเล็กๆ ก่อน เพื่อเป็นการทดลองระบบ เพราะเป็นระบบใหม่ที่ยังไม่เคยใช้มาก่อน หากมีปัญหาจะได้ปรับปรุงแก้ไขได้ ล่าสุดสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA รายงานว่าทำระบบเสร็จแล้ว คาดว่าจะเริ่มโอนเงินภายในไตรมาสที่ 2 หรืออย่างช้าไตรมาสที่ 3 นี้ / ทั้งนี้ ผ่านมา รัฐบาลได้แจกเงินหมื่นให้กับประชาชนที่ได้รับสิทธิแล้ว 2 กลุ่มหลัก ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีจำนวนรวมประมาณ 17 ล้านคน

แจกเงินหมื่นดิจิทัล เฟส 3 จับตา "นายกฯ" นัดประชุมบอร์ดกระตุ้นศก. วันนี้

สรุปข่าว

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 3 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ ซึ่งคาดว่าจะมีการเคาะวันจ่ายเงิน

 นอกจากนี้ยังติดตามความคืบหน้าการกลั่นกรองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละกระทรวงที่เสนอมาให้คณะกรรมการฯ พิจารณา เพื่อขับเคลื่อน 3 กระทรวง ให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะมีโครงการเที่ยวคนละครึ่งและการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเทศกาลต่าง ๆ 

กระทรวงพาณิชย์เรื่องส่งออกที่ให้มีการขยายตัวได้ตามเป้าในปีนี้ที่ร้อยละ 4.4 และกระทรวงการคลังเร่งการลงทุนและเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2568 ให้ได้มากกว่าร้อยละ 80 และการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มค้าขาย เป็นต้น

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังเตรียมรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปัจจุบัน ซึ่งล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ของไทยในปี 2567 พบว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 2.5 เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 2 ในปี 2566

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.3 ถึง 3.3 (ค่ากลางการประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 2.8) ส่วนการอุปโภคบริโภค ประเมินว่า จะขยายตัวร้อยละ 3.3 และการลงทุนภาคเอกชน จะขยายตัวร้อยละ 3.2 ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปดอลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.5 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ในช่วงร้อยละ 0.5 ถึง 1.5 และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ 2.5 ของ GDP

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Getty Images