สรุปข่าว
วันนี้ ( 20 มิ.ย. 66 )ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ตำรวจ PCT เตือนภัยออนไลน์ 5 กลอุบายที่มิจฉาชีพมักจะนำมาใช้นั่นก็คือ
รูปแบบที่ 1 จะอ้างว่ามีพัสดุจากบริษัทขนส่งข้ามประเทศแล้วถูกอายัดไว้ เพราะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นจะให้ติดต่อมิจฉาชีพซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการตรวจสอบพัสดุและหลอกล่อให้โอนเงินไปยังมิจฉาชีพ
รูปแบบที่ 2 จะอ้างว่า ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมร้ายแรง เช่น ยาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือฟอกเงิน จากนั้นจะหลอกล่อให้โอนเงินเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้ มักจะอ้างตัวเป็นหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ศาล อัยการ ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกรมสรรพากร
รูปแบบที่ 3 จะมีการอ้างว่า ผู้เสียหายเปิดบัญชีธนาคารหรือบัญชีม้าให้คนร้ายใช้ในการกระทำความผิด จากนั้นจะหลอกล่อให้โอนเงินไปยังมิจฉาชีพเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง
รูปแบบที่ 4 มิจฉาชีพจะอ้างว่า ผู้เสียหายค้างชำระค่าบัตรเครดิต หากไม่รีบชำระจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี โดยหลอกล่อให้โอนเงินชำระค่าบัตรเครดิตไปยังบัญชีกลุ่มมิจฉาชีพ
ส่วนรูปแบบที่ 5 จะมีการแอบอ้างเป็น กสทช. ว่า ผู้เสียหายกำลังจะถูกปิดเบอร์มือถือภายใน 2 ชั่วโมง เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม จากนั้นจะให้ติดต่อพูดคุยกับตำรวจปลอม และหลอกล่อให้โอนเงินเข้าบัญชีมิจฉาชีพ
ซึ่งรูปแบบหลอกลวงในลักษณะนี้ ถึงแม้จะเป็นรูปแบบเดิม ๆ แต่ตำรวจ PCT ย้ำว่า ยังมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกล่อให้โอนเงินไปยังกลุ่มมิจฉาชีพจำนวนมาก
ภาพจาก : AFP
ที่มาข้อมูล : -