

สรุปข่าว
บล.กสิกรไทยคงเป้า SET Index ปี 2565 ไว้ที่ 1,650 จุด คำนวณด้วย EPS ที่ 105.90 บาท และ EYG ที่ 3.48% (หรือ -0.875SD) ประมาณการ EPS ล่วงหน้า 12 เดือนของเราปรับเพิ่มขึ้นเป็น 105.90 (+5.5% MoM) จากการปรับปีฐาน EPS จากกลางปี 2565 เป็นสิ้นปี 2565
ขณะนี้ House view ของเราคาดว่าอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ระยะเวลา 10 ปี จะอยู่ที่ 2.90% จากประมาณการเดิมที่ 2.60% SET index ฟื้นตัวขึ้น 4.5% หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 1,580 จุด เมื่อเดือนก่อนหนุนจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป
อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มุมมองบวกที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจแตะระดับสูงสุดแล้วจาก US Core EPS ที่ปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงในเดือนเม.ย.2565 การยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการเปิดเศรษฐกิจจีนหลังควบคุมการระบาดได้
ปัจจัยเสี่ยงหลักในช่วงครึ่งหลังปีนี้
เราแนะนำให้ใช้จังหวะที่หุ้นฟื้นตัวในการลดพอร์ตจาก upside ที่จำกัดต่อราคาเป้าหมายของเรา และปัจจัยลบจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวของ Fed และการปรับลดประมาณการกำไรลง เราคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับสูงจากราคาน้ำมันและอาหารที่สูงผลจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ
ห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงักลงจากนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน และราคาของภาคบริการที่สูงขึ้นจากอุปสงค์ที่อั้นไว้หลังสิ้นสุดวิกฤติโควิด-19 เรามองว่าการที่ Fed จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย และลดขนาดงบดุลจะเพิ่มความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเป็นแรงกดดันต่อมูลค่าหุ้น
ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนขาดทุนจากราคาสินทรัพทย์เสี่ยงที่ปรับตัวลง หากจีนตัดสินใจที่จะเดิมพันด้วยวัคซีน mRNA ของตัวเองและคงนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ เราคาดว่าจีนอาจต้องเลื่อนเปิดประเทศออกไปจากคาดการณ์ของตลาดคือในไตรมาส 4/2565 อีก 2 ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คือพัฒนาการเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสฝีดาษลิง และการใช้จ่ายเงินของภาครัฐที่น้อยกว่าคาดจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ และต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
หุ้นเด่นรายเดือนแนะนำ 6 ธีมลงทุน ประกอบด้วย
📌กลุ่มอัตราตอบแทนปันผลสูง (เคลื่อนไหวดีกว่าตลาดในช่วงที่ตลาดอ่อนตัวลง )
KKP ซื้อ ราคาเป้าหมาย 87บาท
KTB ซื้อ ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท
DTAC ซื้อ ราคาเป้าหมาย 57.52 บาท
📌กลุ่มที่มีประกันความเสี่ยงต่อไวรัสฝีดาษลิง (กลุ่มโรงพยาบาลและถุงมือทางการแพทย์จะได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสฝีดาษลิง )
BCH ซื้อ ราคาเป้าหมาย 24 บาท
STA ซื้อ ราคาเป้าหมาย 33 บาท
📌 กลุ่ม Anti-commodities (ราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลบวกต่อ BGRIM และ EPG จากต้นทุนวัตถุดิบตั้งต้นที่ลดลง)
BGRIM ซื้อ ราคาเป้าหมาย 61 บาท
EPG ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12บาท
📌 กลุ่มเปิดประเทศ
MTC ซื้อ ราคาเป้าหมาย 61.00 บาท
BEM ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.99 บาท
BJC ซื้อ ราคาเป้าหมาย 43.50 บาท
ANAN ซื้อ ราคาเป้าหมาย 1.47 บาท
SPRC ซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.10 บาท
การเปิดเศรษฐกิจ/การเปิดภาคเรียน/กลับไปทำงานที่สำนักงาน รายได้ภาคเกษตรและค่าแรงที่สูงขึ้นคาดจะช่วยหนุนอุปสงค์สินเชื่อของ MTC จำนวนผู้โดยสาร/รถยนต์ที่ใช้ทางพิเศษของ BEM SSSG ของ BJC ยอดขายของ ANAN และ GRM ของ SPRC ให้สูงขึ้น
📌ผู้เล่นกลุ่มเติบโต (คาดทั้ง 3 บริษัทจะรายงานกำไรสุทธิที่เติบโตแข็งแกร่งในปี 2565/66 )
RBF ซื้อ ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท
GUNKUL ถือ ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท
CHAYO ซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.80 บาท
📌พัฒนาการเชิงบวกในจีน
PSL ซื้อ ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท
JWD ซื้อ ราคาเป้าหมาย 22.80 บาท
SCGP ซื้อ ราคาเป้าหมาย 64 บาท
การเปิดประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนคาดจะช่วยหนุนค่าระวางเรือของ PSL ปริมาณขนส่งของ JWD และราคากระดาษของ SCGP ให้สูงขึ้น
ที่มา บล.กสิกรไทย
ภาพประกอบ บล.กสิกรไทย
ที่มาข้อมูล : -