
เกมยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2024/25 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดาด ทีมจากลาลีกา สเปน โดยเกมแรกทั้งสองทีมเสมอกันมาด้วยสกอร์ 1-1

สรุปข่าว
เกมนี้ รูเบน อโมริม กุนซือปีศาจแดง เกมนี้ส่ง เอย์เดน เฮฟเว่น ดาวรุ่งวัย 18 ปี สตาร์ตัวจริง แดนกลาง แพทริค ดอร์กู ร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีม ประสานงานแดนกลางกับ คาเซมิโร่ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยมี โจชัว เซิร์กซี เล่นร่วมกับ อเลฮานโดร การ์นาโช่
ส่วนทางด้าน อิมานอล อัลกวาซิล ส่ง มาร์ติน ซูบีเมนดี้ กับ ปาโบล มาร์ติน ลงสตาร์ตตัวจริง ประสานแนวรุกทั้ง เชไรโด เบ็คเกอร์ ทาเกะฟุสะ คุโบะ และ มิเกล โอยาร์ซาบัล
เริ่มเกมมาไม่ถึง 10 นาที เรอัล โซเซียดาด ได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ มิเกล โอยาร์ซาบัล ถูก มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ ทำฟาวล์จากด้านหลังในกรอบเขตโทษ หลังจากเช็ค VAR ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ และเป็นทางด้าน มิเกล โอยาร์ซาบัล ยิงเข้าไปพาทีมเยือนนำไปก่อน 1-0
ต่อมานาทีที่ 15 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้บอลทางกราบขวาปาดบอลเข้ามาให้ทาง ราสมุส ฮอยลุนด์ ศูนย์หน้าของทีม แต่ทว่าโดนทางด้าน อิกอร์ ซูเบลเดีย สกัดล้มหน้าปากประตู ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 40 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุมฝั่งขวา แพทริค ดอร์กู ฮาล์ฟวอลเลย์จากแถวสอง บอลข้ามคานไปนิดเดียว อีก 3 นาทีต่อมา ปีศาจแดงตัดบอลได้กลางสนามได้เล่นเกมโต้กลับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายให้ ดอร์กู ควบมาตรงๆ ก่อนตัดสินยิงเอง บอลตรงตัว เรมีโร่ ทำให้จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1
เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ไม่นาน นาทีที่ 48 "ปีศาจแดง" มาได้ลูกจุดโทษอีกแล้ว จากจังหวะที่ แพทริค ดอร์กู ถูก อาริตซ์ เอลุสตอนโด ทำฟาวล์ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส คนเดิม สังหารเข้าไปไม่พลาด ส่งเจ้าถิ่นพลิกนำทีมเยือนเป็น 2-1
นาทีที่ 63 สถานการณ์ของ เรอัล โซเซียดาด เจอสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เพราะต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน หลัง จอน อารัมบูรู ได้รับใบแดงโดยตรง จากการทำฟาวล์ แพทริค ดอร์กู ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าไปในแดนสองของทีม
นาที 81 นุสแซร์ มาซราอุย เลี้ยงหลบแนวรับของ เรอัล โซเซียดาด ไปสองคนแล้ววางบอลไปที่เสาสองให้กับทาง โจชัว เซิร์กซี โหม่งบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ต่อมานาที 87 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนีไปเป็น 3-1 จากจังหวะสวนกลับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ แทงบอลทะลุช่องมาให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่เติมขึ้นมาและหลุดเข้าไปยิงแบบสุดคมและเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้
เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 90+1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างเป็น 4-1 ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้บอลพไปทางกราบซ้ายก่อนจะเปิดหักข้อกลับมาให้ ดิโอโก้ ดาโลท์ ที่เติมขึ้นมาตรงกลางหน้ากรอบเขตโทษได้แปรบอลแซกหน้า เรมีโร่ เข้าประตูไป
ทำให้จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด 4-1 รวมผลสองนัด 5-2 และยังมีสถิติไม่แพ้ทีมใดรายการนี้ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ โอลิมปิก ลียง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อังเดร โอนาน่า - นูสแซร์ มาซราอุย, มัทไธส์ เดอ ลิกต์, เอย์เดน เฮฟเว่น - ดีโอโก้ ดาโล่ต์, คาเซมิโร่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, แพทริค ดอร์กู - อเลฮานโดร การ์นาโช่, โจชัว เซิร์กซี - ราสมุส ฮอยลุนด์
เรอัล โซเซียดาด (4-3-3) : อเล็กซ์ เรมิโร่ - อาร์ติสต์ เอลุสตอนโด, อิกอร์ ซูเบลเดีย, นาเยฟ อาเกิร์ด, ไอเอน มูนญอซ - มาร์ติน ซูบีเมนดี้, ปาโบล มาร์ติน, บราอีส เมนเดซ - เชไรโด เบ็คเกอร์, ทาเกะฟุสะ คุโบะ, มิเกล โอยาร์ซาบัล
ที่มาข้อมูล : Europa League
ที่มารูปภาพ : AFP

null null
(armphukrit)