ตึกสาทรยูนีค ยังอยู่ในกระบวนการต่อสู้ มีข้อพิพาท และ คดีความ

ตามโพธ ต่อสุวรรณ ระบุว่า วันนี้โทรศัพท์เข้าจนสายแทบไหม้ ตั้งแต่ข่าวเรื่องประกาศขาย คุณพ่อ (อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ) ไม่ได้เป็นผู้ประกาศขายนะครับ ตึกนี้มีข้อพิพาทและคดีความมากมายหลายอย่าง กระบวนการทางกฎหมายที่ฉ้อฉลยึดทรัพย์ภาคเอกชน ผ่องถ่ายไปองค์กรข้ามชาติแล้วฟอกทรัพย์กลับมาเข้ามือกลุ่มทุนที่เป็น deep stage ของประเทศนี้ คุณพ่อและคุณแม่ต่อสู้กับกระบวนการนี้มายาวนานร่วม 30ปี

Fact ที่หลายคนอาจไม่รู้ ห้องชุดในตึกนี้ได้ขายไปแล้วมากกว่า 90% ตั้งแต่เปิดขายเมื่อ30กว่าปีที่แล้ว กลุ่มทุนสามานนี้ไม่ได้ปล้นเฉพาะ Developer แต่ปล้นคนซื้อทุกคน โอนถ่ายทรัพย์ไปมาเพื่อเขย่าให้ตึกนี้กลายเป็นตึกเปล่าที่ยังไม่มีใครซื้อ ซื้อถูก-ฟอกขาว-เขย่าให้เป็นตึกเปล่า นี่คือสิ่งที่ทุนกลุ่มนั้นทำกับทุกตึกทุกอาคารที่โดนโยนลงหม้อต้มยำกุ้ง

เรื่องราวการต่อสู้ของท่านทั้ง2 ยังคงดำเนินอยู่ และผมเชื่อว่าจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ การประกาศขายไม่ได้มาจากคุณพ่อ และท่านไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครเกี่ยวกับตึกนี้ในการขาย ช่วงระยะหลังท่านสุขภาพไม่ค่อยดี ท่านพักผ่อนเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ  โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว ถ้าปัญหาตึกนี้มันจบง่าย มันคงไม่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ต้มยำกุ้งมานาน 30ปี

ประวัติ “สาทร ยูนีค ทาวเวอร์” อนุสาวรีย์ต้มยำกุ้ง ตั้งตระหง่านเหนือความคงทน

สาทร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรูสูง 49 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินขนาด 2 ไร่ ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและถนนเจริญกรุง รวม 600 ยูนิต  ออกแบบโดย ผศ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ โดยใช้ สไตล์สถาปัตยกรรมคลาสสิกผสมโพสต์โมเดิร์น เสาโค้ง ระเบียงกรีก โดมด้านบนสุด เป็นที่ตั้งของเพนต์เฮาส์ราคาสูงสุดในโครงการ

แต่สาทร ยูนีค ทาวเวอร์  ถูกทิ้งร้างหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 แม้จะสร้างเสร็จไปแล้ว 80-90% ด้วยความสูง 185 เมตร ทำให้กลายเป็นตึกผีสิงในสายตานักสำรวจเมือง และเป็นจุดหมายของนักถ่ายภาพมุมสูง แม้ปัจจุบันจะมีกฎห้ามเข้าก็ตาม  

ซึ่งตึกมีชื่อแห่งนี้กลายเป็นไวรัล กลับมาสู่สายตาของประชาชนอีกครั้งหนึ่งหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 8.2 แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆ จึงเกิดเป็นกระแสการยกย่องผู้ออกแบบ และ สร้างสรรค์ ตลอดจนความคงทนที่แข็งแรงแม้ผ่านมานานนับ 30 ปี