ไทม์ไลน์เหตุการณ์ “มาดามเมนี่” โดนเพื่อนดาราดังยืมของไม่คืน

กุมภาพันธ์ 2568 : “มาดามเมนี่" หรือ "ดร.เมย์ วาสนา อินทะแสง" ให้เพื่อนดารายืมทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมาก โดยมาดามเมนี่ตั้งเส้นตายให้เพื่อนดาราคืนทรัพย์สินภายในสิ้นเดือน หากไม่คืนจะดำเนินการทางกฎหมาย

โดยเหตุผลที่ให้ดาราสาวยืมเพื่อช่วยแก้ปัญหาชีวิต พร้อมเผยเป็นบทเรียนของตัวเองว่า "ผิดที่ไว้ใจคนมากเกินไป เอ็นดูเขาเอ็นเราขาดกระจุย"

17 มีนาคม 2568 : เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง มาดามเมนี่ตัดสินใจโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย เปิดเผยรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกยืมไป พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินให้รีบนำคืน โดยทรัพย์สินดังกล่าวประกอบไปด้วย  
- นาฬิกา RICHARD MILLE มูลค่า 13,800,000 ล้านบาท
- สร้อย BVLGARI มูลค่า 15,274,000
- กระเป๋า HERMES มูลค่า 2,800,000 บาท
- กระเป๋า KELLY มูลค่า 3,700,000 บาท
- สร้อย LOTUS ARTS DEVIVRE มูลค่า 26,440,000 บาท  

รวมมูลค่ากว่า 62 ล้านบาท

18 มีนาคม 2568 : หนุ่ม กรรชัย ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง เปิดเผยในรายการโดยอ้างว่าดาราที่ถูกกล่าวถึงอาจจะเป็น "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" พร้อมเตือนว่า ผู้ที่รับซื้อทรัพย์สินดังกล่าวอาจเข้าข่ายรับของโจร

ค่ำวันเดียวกัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจรับซื้อ รับเทิร์น และจำนำทรัพย์สินมีค่า โพสต์แชทไลน์ จากบุคคลที่ได้รับการแนะนำให้ติดต่อมาเพื่อจำนำทรัพย์สิน ซึ่งทรัพย์สินที่เสนอให้จำนำ มีลักษณะตรงกับทรัพย์สินที่มาดามเมนี่ประกาศตามหา ทุกประการ

จากข้อสังเกตของชาวเน็ต บุคคลที่ติดต่อมานั้น มีท่าทีเร่งรีบผิดปกติ และเสนอ ลดราคาทรัพย์สินต่ำกว่ามูลค่าจริง โดยเฉพาะ สร้อย LOTUS ARTS DE VIVRE

อย่างไรก็ตาม เจ้าของเฟซบุ๊กปฏิเสธรับจำนำ เนื่องจากเงื่อนไขของร้านระบุว่า เจ้าของทรัพย์สินต้องมาแสดงตัวเองทุกกรณี พร้อมเอกสารยืนยันตัวตน เพื่อป้องกันการรับของโจร แต่บุคคลปริศนากลับอ้างว่า เป็นของเพื่อนที่ต้องการนำเงินไปหมุนเวียนในธุรกิจ

วันที่ 19 มีนาคม : ดิว อริสรา และ มาดามเมย์ เผชิญหน้าครั้งแรกในรายการ "โหนกระแส" ยอมรับผิดเกี่ยวกับการยืมของ

ในรายการ "โหนกระแส" มาดามเมนี่ เปิดเผยถึงเรื่องราวการให้ ดิว อริสรา ยืมของเพื่อนำไปใช้ค้ำประกันหนี้ ซึ่งภายหลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคม โดยเล่าว่า เธอรู้จักดิวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในฐานะลูกค้าที่มาสั่งผลิตของที่โรงงาน ซึ่งได้มัดจำไว้จำนวน 22 ล้านบาท ก่อนจะทราบว่า ดิวมีพาร์ทเนอร์ที่เป็นเจ้าของเงินจริงๆ

เรื่องเริ่มต้นในวันที่ 6 เมษายน 2567 เมื่อดิวโทรมาหามาดามเมนี่บอกว่าเธอติดหนี้ 20 ล้านบาท และหากไม่ชำระเงินจะโดนแฉ ซึ่งมาดามเมนี่ยินยอมให้ยืมของบางชิ้นเป็นหลักประกันแทนเงิน โดยให้กระเป๋า Hermes, สร้อย Bvlgari, สร้อย Lotus Art และนาฬิกา RM แต่ย้ำกับดิวว่าอย่าพาไปขายหรือจำนำ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป มาดามเมนี่เริ่มรู้สึกไม่สบายใจและมีการเจรจาเพื่อขอของคืน ซึ่งดิวยอมรับว่ามีการนำของไปจำนำจริง และขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน โดยอ้างว่าเป็นความผิดพลาดจากหุ้นส่วนของเธอที่แนะนำให้ไปขอยืมของจากมาดามเมนี่เพื่อแก้ปัญหาหนี้

ในส่วนของดิว อริสรา ที่โฟนอินเข้ามาในรายการ ยอมรับผิดทั้งหมดและขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เธอยอมรับว่าได้ใช้เงินเกินตัวในการลงทุนธุรกิจต่างๆ จนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว และย้ำว่าของที่ยืมจากมาดามเมย์ยังอยู่ครบ ส่วนข่าวลือที่บอกว่าของบางชิ้นไปอยู่กับนักการเมืองระดับรัฐมนตรีนั้น ดิวยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง

ดิวได้บอกว่า เธอจะพยายามรับผิดชอบหนี้ทั้งหมดด้วยตัวเอง ยอมรับว่าตนเองนั้นบริหารการเงินผิดพลาดในเรื่องของการลงทุนทางธุรกิจ และ ใช้เงินเกินตัว พร้อมขอให้ทุกคนเห็นใจครอบครัวและลูกๆ ของเธอ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ย้อนฟังจากปาก "มดดำ คชาภา" เปิดข้อมูลวงใน “มาดามเมนี่ - ดิว อริสรา ”

"มดดำ คชาภา ตันเจริญ" ซึ่งสนิทกับมาดามเมนี่ ได้เผยถึงเรื่องดังกล่าวในรายการแฉ ยอมรับว่าเห็นทุกวัน ที่คนทวงถามในเฟซบุ๊กและรายการข่าวต่าง ๆ ว่าเรื่อง "เมย์ 62 ล้าน" ไปถึงไหนแล้ว โดยเจ้าตัวเล่าว่ามาดามเมนี่  คิดว่าสิ้นเดือนกุมภาพันธ์จะได้ของคืน แต่ปรากฏว่าไม่มีการคืนของ

ต่อมาทราบว่าทรัพย์สินบางส่วนถูกนำไปขายตามร้านค้า ซึ่งร้านค้ายอมรับว่าตอนรับซื้อมาก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร โดยทรัพย์สินที่ถูกขายไปมีมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท จาก 62 ล้าน!  ซึ่งมาดามเมนี่ยังงมีเอกสารสำคัญ เช่น ใบรับรองและกล่องสินค้า ซึ่งทำให้ของที่ถูกขายไปมีราคาต่ำกว่าปกติ

นอกจากนี้เมย์ให้โอกาสดาราคนดังกล่าวเจรจาและขยายเวลาอีก 15 วัน แต่ก็ไม่ได้รับการคืนของตามกำหนด จนทำให้เกิดการแจ้งความและดำเนินการตามกฎหมายแล้ว