รมต.จิราพร เปิดการไกล่เกลี่ยร้องทุกข์แบบกลุ่ม เร่งติดตามมือถือติดตั้งแอปเงินกู้เถื่อน

   นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคว่า ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งผู้บริโภคต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างเท่าเทียมกันการคุ้มครองดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นสิทธิพื้นฐานแต่ยังเป็นมาตรฐานที่ทุกคนควรได้รับเพื่อสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาหลักที่พบส่วนใหญ่มีมายัง สคบ. ได้แก่ กรณีการขายสินค้าหรือการให้บริการที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลง สะท้อนถึงความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขเรื่องร้องทุกข์ให้รวดเร็วขึ้น  

    สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงส่งเสริมการไกล่เกลี่ยมิติใหม่ ในรูปแบบการไกล่เกลี่ยแบบกลุ่ม เป็นการแก้ไขข้อพิพาทกลุ่มที่มีประเด็นร้องทุกข์ในลักษณะเดียวกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนการช่วยเหลือผู้บริโภคได้มากขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบการดำเนินงานในลักษณะการไกล่เกลี่ยรายกรณี ที่ปัจจุบัน สคบ. มีการแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคเฉลี่ยเดือนละ 250 เรื่อง แต่เมื่อเริ่มกิจกรรมการไกล่เกลี่ยเป็นกลุ่มและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมากขึ้นถึง 3 เท่า จะช่วยยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สคบ. จะเร่งยกระดับกระบวนการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจในอนาคต ใช้ระบบ “OCPB Mediate” เป็นแพลตฟอร์มไกล่เกลี่ยออนไลน์ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถยื่นเรื่องร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ สคบ. ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกสบาย



รมต.จิราพร เปิดการไกล่เกลี่ยร้องทุกข์แบบกลุ่ม เร่งติดตามมือถือติดตั้งแอปเงินกู้เถื่อน

สรุปข่าว

​สคบ.จัดไกล่เกลี่ยร้องทุกข์แบบกลุ่มช่วยแก้ปัญหาเร็วขึ้นสามเท่า แนะผู้บริโภคใช้ระบบ “OCPB Mediate” แพลตฟอร์มไกล่เกลี่ยออนไลน์ ที่ช่วยให้สามารถยื่นเรื่องร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ พร้อมเร่งติดตามเอาผิดและช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากกรณีมือถือติดตั้งแอปเงินกู้เถื่อน

       นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังประชุมติดตามจากกรณีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน “สินเชื่อความสุข” และ “Fineasy” เป็นสินเชื่อให้กู้ยืมเงินผิดกฎหมาย โดยให้พิจารณา ดังนี้

·       ผู้บริโภคที่ไม่ได้กู้ยืมเงินแต่ได้รับความเสียหายจากแอปพลิเคชันดังกล่าว เช่น ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ในเครื่องที่มีแอปพลิเคชัน จึงได้มอบหมายให้ สคบ. เร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่วนกรณีผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการกู้ยืมเงิน เช่น การคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ทาง สคบ. ได้สอบข้อเท็จจริงจากผู้ที่มาร้องเรียนและส่งข้อมูลไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

          สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จะมีการบูรณาการการทำงานและแก้ไขกฎหมายเพื่ออุดช่องโหว่ที่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายหรือหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำอีกในอนาคต


    สำหรับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ให้กู้ยืมเงิน แต่ยังไม่ได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ ขอให้รีบดำเนินการแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือช่องทางต่างๆ ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ดังนี้

     1. ระบบออนไลน์

- https://complaint.ocpb.go.th

- OCPB Connect Mobile App

- Chat Bot “พี่ปกป้อง”

     2. สายด่วน สคบ. 1166

     3. เดินทางไปด้วยตนเอง

-ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ผู้บริโภค ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ชั้น 1 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

-ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด

 กรุงเทพมหานคร

          เมืองพัทยา

           องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล และองค์การบริหารส่วน

ที่มาข้อมูล : สคบ.

ที่มารูปภาพ : สคบ.

avatar

Nuttavee Chaleesopon
(Nuttavee Chaleesopon)