ช่องทางการรับชำระเงินกองทุนประกันสังคม

 - รับชำระเงินมาตรา 33 ผ่าน QR Code (Cross Bank Bill Payment บริการชำระบิลข้ามธนาคาร) 

โดยนายจ้างสามารถชำระเงิน โดยการสแกน QR code ด้วย Mobile Banking ของธนาคารต่าง ๆ ได้ทุกธนาคารที่รองรับการชำระบิลข้ามธนาคาร โดยธนาคารต่าง ๆ จะโอนเงินเข้ามาที่บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของสำนักงานประกันสังคม นายจ้างสามารถพิมพ์ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ได้ทันทีที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้วจากเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม (https://www.sso.go.th/erc)

- รับชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) 

มีธนาคารและหน่วยบริการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)   ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. ธนาคาร  มิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพฯ ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น ธนาคารดอยซ์ แบงก์ ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) หรือที่หน่วยบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส ชำระเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิต มาสเตอร์การ์ด โดยจำนวนเงินที่รับชำระไม่เกิน 49,000 บาท ต่อรายการ สำหรับช่องทางรับใบเสร็จ นายจ้างสามารถสั่งพิมพ์หรือดาวน์โหลดใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (https://www.sso.go.th/erc)                   

 - รับชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร มี 2 แห่ง 

ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ นายจ้างสามารถรับใบเสร็จรับเงินทันทีที่ชำระเงินจากเคาน์เตอร์ธนาคาร    

ไม่นำส่ง หรือค้างชำระเงินสมทบ มีความผิดตามกฎหมาย

นางมารศรี เลขาธิการ สปส. กล่าวฝากนายจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม “หากนายจ้างไม่ชำระเงินสมทบตามกำหนดเวลาหรือค้างชำระเงินสมทบ อาจส่งผลกระทบต่อการได้รับสิทธิของลูกจ้าง ทำให้ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ และนายจ้างจะถูกดำเนินการตามกฎหมายของสำนักงานประกันสังคม โดยต้องจ่ายทั้งเงินสมทบพร้อมเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของเงินสมทบที่ยังไม่นำส่ง หรือส่วนที่ขาดอยู่จนครบอีกด้วย”