ฝุ่น PM 2.5 กทม. ส้มทั้งเมืองรับวันมาฆบูชา “หนองแขม” หนักสุด

วันนี้ (12 ก.พ. 68) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 12 ก.พ.68 เวลา 07.00 น. ตรวจวัดได้ 34.4-69.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยค่าเฉลี่ยของกรุงเทพฯ อยู่ที่ 49.7 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ค่ามาตรฐานต้องไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 67 พื้นที่

โดยพื้นที่ที่พบว่าค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดใน 10 อันดันแรก มีดังนี้

1. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 69.8 มคก./ลบ.ม.
2. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 66.2 มคก./ลบ.ม.
3. เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 65.6 มคก./ลบ.ม.
4. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 64.8 มคก./ลบ.ม.
5. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 63.2 มคก./ลบ.ม.
6.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 63.0 มคก./ลบ.ม.
7.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 59.2 มคก./ลบ.ม.
8.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 58.4 มคก./ลบ.ม.
9.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 58.2 มคก./ลบ.ม.
10.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 57.7 มคก./ลบ.ม.

ฝุ่น PM 2.5 กทม. ส้มทั้งเมืองรับวันมาฆบูชา “หนองแขม” หนักสุด

สรุปข่าว

สถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กทม. วันนี้ส้มทั้งเมืองรับมาฆบูชา “เขตหนองแขม” หนักสุด อยู่ที่ระดับ 67.4

สำหรับเขตที่มีปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุด 5 เขตแรก มีดังนี้

1. เขตหนองแขม อยู่ที่ระดับ 67.4
2. เขตบางขุนเทียน อยู่ที่ระดับ 66.3
3. เขตบางนา อยู่ที่ระดับ 65.2
4. เขตลาดกระบัง อยู่ที่ระดับ 62.6
5. เขตหนองจอก อยู่ที่ระดับ 62.1

ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 12 ก.พ. 68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี" ขณะมีอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงเพิ่มขึ้น สำหรับวันที่ 13-20 ก.พ. การระบายอากาศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ "อ่อน-ดี" ประกอบกับชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะเปิดสลับปิด ทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง


ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) ติดตามการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในขณะนี้มี 62 จังหวัดที่ประกาศห้ามเผาแล้ว ซึ่งถือว่าเกินเป้าหมายกว่าร้อยละ 75 ที่ตั้งไว้ แต่ในช่วงวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์นี้ ขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น เนื่องจากกระแสลมอ่อนกำลังลง ทำให้กระแสลมหยุดนิ่ง ตามที่กรมควบคุมมลพิษได้รายงานภาพรวมสถานการณ์ฝุ่นทั้งประเทศ ก็เป็นไปตามคาดการณ์ว่า ฝุ่นจะกลับมาอีกครั้ง  โดยหลังจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออก เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานครและภาคเหนือตอนบน

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า ได้รายงานสถานการณ์จุดความร้อน เมื่อวานนี้(11 ก.พ.) พบว่า ประเทศไทยมีจุดความร้อนรวม 881 จุด เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีจำนวนจุดความร้อนเพิ่มขึ้น 90 จุด โดย 5 จังหวัดที่พบมากที่สุด ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ และกาฬสินธุ์ ขณะที่จุดความร้อนในพื้นที่ป่า กรมป่าไม้ได้ระดมเจ้าหน้าที่ร่วมกับจิตอาสาเข้าควบคุมป้องกันการลุกลามขยายวงกว้างอย่างเต็มที่

ที่มาข้อมูล : กรุงเทพมหานคร

ที่มารูปภาพ : TNN