
วันนี้ (11 ก.พ. 68)นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุม ว่า ขอให้ดำเนินการศึกษาทบทวนกฎหมายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อปรับรูปแบบข้อบังคับทางกฎหมายให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายมานาน ตั้งแต่ปี 2515 เมื่อ 53 ปีที่แล้ว
รัฐบาลได้รับหนังสือจากภาคธุรกิจเอกชนหลายกลุ่ม ถึงข้อเรียกร้องในการพิจารณาให้ปรับข้อบังคับในการอนุญาตขายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และสังคมไทยในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมา มีข้อจำกัดทางกฎหมายไม่สอดรับกับความเป็นจริงในสังคม

สรุปข่าว
ทั้งนี้จะ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ไปศึกษาหามาตรการในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น การห้ามจำหน่ายระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. ว่าเหมาะสมหรือสอดรับความเป็นจริงในสังคมไทยอย่างไร และการห้ามจำหน่ายในวันสำคัญทางพุทธศาสนา รวมถึงการห้ามจำหน่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่อาจจะติดขัดในเรื่องของข้อจำกัดทางด้านเขตพื้นที่ควบคุม (zoning)
ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขในข้อกฎหมาย หรือข้อบังคับหรือประกาศใด ๆ ที่ทำได้ก่อน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มี.ค. 68 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และการป้องกันเยาวชนไม่ให้เข้าถึงแอลกอฮอล์ได้อย่างเหมาะสม และเป็นรูปธรรม สอดรับกับความเป็นจริงในประเทศไทย"
อย่างไรก็ดี ในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ ให้คำนึงถึงการที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายให้ปีนี้ เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year ซึ่งรัฐบาลเอง ก็ได้มีการส่งเสริมในการจัดกิจกรรมระดับโลกต่าง ๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีทั้งในเมืองหลัก และเมืองน่าเที่ยว ซึ่งจะเป็นการทำให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ได้รับประโยชน์ต่อไป