GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 06.00 น. พบว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีค่า PM 2.5 ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจในระดับส้มจำนวน 11 เขต โดยสูงสุดอยู่ที่ “หนองจอก” 43.5 ไมโครกรัม
ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบค่าฝุ่น PM2.5 ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ระดับสีส้ม 48 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สรุปข่าว
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะกลับมามีแนวโน้มพุ่งขึ้นเกินค่ามาตรฐาน ในช่วงวันที่ 7 - 8 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงแนะนำให้ ป้องกันตนเองจากการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะการ "ใช้" หน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 โดยควรเลือกใช้หน้ากาก N95 เป็นอันดับแรก เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน ได้มากกว่าร้อยละ 90
ขณะที่ นางสาว ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการประชุมติดตามสถานการณ์ฝุ่นควัน ของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่า ค่าฝุ่นจะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง โดยต้องเฝ้าระวังจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้
เนื่องจากอากาศจะนิ่งและจมตัว เกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ทำให้อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ร่วมกับลมที่มีความแปรปรวนในช่วงนี้ โดยมีลมทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดแทรกบางเวลา ส่วนลมทางตอนเหนือจะเป็นลมตะวันตก ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่
ขณะที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานแนวทางและขั้นตอนการแจ้งเตือนและป้องปรามเกษตรกรไม่ให้เผา ควบคู่กับการส่งเสริมวิธีการกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตร ล่าสุดเตรียมขึ้นบัญชีเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์และไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการของรัฐ ซึ่งจะประกาศในเร็วๆนี้ โดยที่ประชุม ปภ.ช. ได้กำชับทุกจังหวัด ประสานการทำงานร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ทำงานเชิงรุก เข้าตรวจสอบและแก้ปัญหาการสะสมของจุดความร้อนที่ยังสูงอยู่