ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย กทม. พร้อมให้บริการจดทะเบียน “สมรสเท่าเทียม” แล้ว
พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครพร้อมให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งประวัติศาสตร์และครั้งแรกในประเทศไทยที่มีผลทางกฎหมายอย่างแท้จริง ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่จะมีผลใช้บังคับในวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568
สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร มีความพร้อมในทุกด้านในการให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมแก่ประชาชนในวันที่ 23 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น. ซึ่งหลายสำนักงานเขตได้จัดเตรียมของที่ระลึก เพื่อร่วมแสดงความยินดีและเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักที่ได้รับความเท่าเทียมครั้งประวัติศาสตร์นี้ด้วย
สรุปข่าว
นอกจากนั้น กรุงเทพมหานครยังได้ร่วมจัดงานและให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมที่สยามพารากอน เป็นกรณีพิเศษ โดยเปิดให้บริการเวลา 08.00 - 18.00 น. ซึ่งจะมีสำนักงานเขตปทุมวันเป็นหน่วยงานหลักและประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้อง 3 - 4 เขต มาร่วมให้บริการ มีการจัดเตรียมแบบฟอร์ม อุปกรณ์ และสัญญาณการสื่อสาร เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งในส่วนของกิจกรรม “Marriage Equality - สมรสเท่าเทียม” ณ Paragon Hall ชั้น 5 สยามพารากอน เขตปทุมวัน จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้พบกับพิธีจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งแรก เสวนาเกี่ยวกับการสร้างครอบครัวหลากหลาย นิทรรศการเส้นทางสู่สมรสเท่าเทียม มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินแนวหน้า และงานเฉลิมฉลองบนพรมแดงสีรุ้ง Pride Carpet สัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจและการยอมรับ พร้อมแสดงออกถึงตัวตนผ่านการแต่งกายที่สะท้อนอิสรภาพทางความคิดและจิตวิญญาณแห่งความรัก
สำหรับคุณสมบัติของผู้จะจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมมีดังนี้
1. บุคคลทั้งสองจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ กรณีผู้เยาว์ต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากศาล
2. ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
3. ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
4. ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น
5. ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้
6. หญิงที่ชายผู้เป็นคู่สมรสตาย หรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อสิ้นสุดการสมรสไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่ คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้ มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ สมรสกับคู่สมรสเดิม
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม กรณีคนไทยกับคนไทย ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน หรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD กรณีคนไทยกับคนต่างชาติ เอกสารประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชนคนไทย หรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD หนังสือเดินทางคนต่างชาติ หนังสือรับรองสถานภาพการสมรสที่แสดงว่าไม่มีคู่สมรสในขณะที่จะจดสมรส
กรณีคนต่างชาติกับคนต่างชาติ เอกสารประกอบด้วย หนังสือเดินทาง และหนังสือรับรองสถานภาพการสมรสที่แสดงว่าไม่มีคู่สมรสในขณะที่จะจดสมรส ทั้งนี้ การจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ทั้ง 3 กรณี จะต้องมีพยาน 2 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ
ที่มาข้อมูล : กรุงเทพมหานคร
ที่มารูปภาพ : TNN ONLINE