เคาะแล้ว! อภิปรายนายกฯ 24-26 มี.ค.ฝ่ายค้านได้ 28 ชม-รัฐบาลแจง 7 ชม.

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิทย์ฝ่ายค้าน พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมตัวแทนคณะรัฐมนตรี ร่วมแถลง กรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 โดยนายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงผลการประชุมว่า ทุกคนในวิป 3 ฝ่าย เห็นตรงกันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องเกิดขึ้น เพราะเป็นกลไกการตรวจสอบ ที่สำคัญโดยจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24-26 มีนาคม ซึ่งฝ่ายค้านได้เวลา 28 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลได้เวลา 7 ชั่วโมง และประธาน 2 ชั่วโมง เบื้องต้นในวันที่ 25 มีนาคม มีการกำหนด เวลาอภิปรายไม่เกิน 23:30 น. และจะมีการลงมติในวันพุธที่ 26 มีนาคม ตอนเช้า แต่อย่างไรก็ดียังมีเงื่อนไขสำคัญเพราะ ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ประท้วงกันจนฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายต่อได้ทำให้ฝ่ายค้านใช้เวลาไม่หมดและต้องอภิปรายนอกสภา ดังนั้น เงื่อนไขที่ทุกฝ่ายตกลงร่วมกัน คือในวันอังคาร เวลา 23:30 น เวลาฝ่ายค้านยังไม่หมด ก็จะให้ฝ่ายค้านใช้โควต้าของตนเองอย่างเต็มที่ ถ้าเกินเที่ยงคืนก็จำเป็นจะต้องลงมติในวันพฤหัสบดี ที่ 27 มีนาคมแทน ซึ่งเรื่องนี้มีการรับรองจากพรรคร่วมรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี จะไม่มีการประท้วงกันแบบพร่ำเพรื่อ เพราะมีเงื่อนเวลาเงื่อนไขตรงนี้จำกัดอยู่ และเพื่อให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ราบรื่นที่สุด

ส่วนจะมีการกำชับฝ่ายค้านไม่ให้มีการอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก เพื่อลดแรงกระเพื่อมไม่ให้มีการประท้วง หรือไม่นั้น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ในญัตติ มีการระบุอยู่แล้ว แม้ไม่ได้ระบุชื่อ แต่คิดว่าการพูดถึงหรือเอ่ยถึง ว่าอะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะอยู่ในญัตติ ตนคงไม่สามารถไปสั่งการหรือแทรกแซงพรรคร่วมอื่นๆได้ เพราะมีเอกสิทธิ์เต็มที่ในการอภิปรายเนื้อหาของตนเอง

ส่วนการเอ่ยถึงบุคคลภายนอกรัฐบาล อาจทำให้มีการประท้วงอย่างหนัก นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เป็นเหตุผลที่มีเงื่อนไขที่เรากำหนดขึ้นมาเพราะทางครม.รัฐบาล ของโควต้ามาเผื่อเวลาประท้วงแล้วซึ่งเราก็เห็นด้วยจะได้บริหารจัดการเวลาให้อยู่ในกรอบเราเห็นพ้องต้องกัน ซึ่งวันแรกจะพยายามบริหารเวลาไม่ให้ดึกมากจนเกินไป และทั้งสองฝ่าย ก็พยายามไม่ให้ดึกมากจนเกินไปเช่นกัน