เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 10 มี.ค.ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม พร้อมเพรียง โดยนายกได้ถ่ายรูปกับหัวหน้าส่วนราชการ เและถ่ายภาพโฟโต้บูธ ร่วมกับรมว.ทรัพยากรฯและปลัดกระทรวงทรัพฯ เป็นที่ระลึกน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้มากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นครั้งแรก ดีใจได้พบกับทุกคนและอยากบอกว่าเหมาะเป็นกระทรวงทรัพยากรฯเพราะเข้ามาเขียวชะอุ่มไปหมดปัจจุบัน ทั้งนี้เรามีงบลงทุนปีงบประมาณ 2568 จำนวน 1.46 ล้านล้านบาท ซึ่งสามารถผลักดัน GDP ให้ขยายตัวได้ 3% ประกอบด้วย งบค้างท่อมาจากปี 2567 กว่า 275,009 ล้านบาท งบลงทุน 932,402 ล้านบาท และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 253,545 ล้านบาท แต่ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนอยู่ที่ 28.12% ต่ำกว่าเป้าหมายกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันกำกับและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานในกำกับให้บรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะ 3 กระทรวง 5 กรม ซึ่งได้รับจัดสรรงบลงทุนมากที่สุด ได้แก่ กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท) กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรมโยธาธิการและผังเมือง) และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กรมชลประทาน) รวมถึงรัฐวิสาหกิจ
สรุปข่าว
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้หัวหน้าส่วนราชการทุกคนใช้ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็น KPI ในการประเมินผลการทำงานของอธิบดีกรมและหัวหน้าหน่วยงานในกำกับต่อไปและเนื่องจากในวันนี้เรามาประชุมกันที่กระทรวงทรัพยากรฯ อยากเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเตรียมมาตรการเชิงรุก ในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 รวมถึงภัยพิบัติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม สำหรับปีหน้าไว้ล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ขอฝากมาตรการเชิงรุกไว้ ในการรับมือกับปัญหาที่มาต่อเนื่องทุกปีน้ำท่วม น้ำแล้ง ฝุ่นควัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม สำหรับปีหน้าไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาเกิดเหตุปัญหา จะได้ลดความเสียหายต่อประชาชนและจังหวัดนั้นๆและประเทศของเราดัวนั้นขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และสภาพัฒน์ฯ เตรียมการ วางแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวไว้ ไม่อยากให้เมื่อเกิดปัญหาแล้วจะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ทำให้เราต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมและเยียวยาอีกมากมาย ซึ่งงบเยียวยาซ่อมแซมไม่ได้เป็นปัญหา แต่ ประชาชนที่ต้องผ่านเรื่องหรือเหตุการณ์เหล่านั้น ประเมินค่าไม่ได้ อันนี้ถ้าสามารถทำให้ตรงนี้ลดลงได้คิดว่าคุ้มค่า มาก อะไรที่ทำได้ขอให้ทุกท่านช่วยกันในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้เรื่องที่อยากฝาก คือการบริหารจัดการน้ำระยะยาวน้ำประปา น้ำบาดาล น้ำใช้อุปโภคบริโภครวมถึงน้ำในภาคอุตสาหกรรม ต้องจัดการเรื่องนี้อย่างดี เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรที่มักจะมีปัญหาเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ขอให้เตรียมการวางแผนระยะสั้นกลางยาวต่อไปขอให้ทุกฝ่ายร่วมมืออย่างเต็มที่มีอะไรอยากให้ตนเองสนับสนุนก็บอกกันได้เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุดและรวดเร็ว
ศิดาพักตร์ ศักดิ์บุญญารัตน์
(พักตร์)