
บ่ายวันนี้ (25 ก.พ.) จะมีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาตรวจสอบกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 และลงมติว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานบอร์ด เป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมฯ ว่า ไม่หนักใจ เพราะทำตามหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ กกต.ส่งเรื่องมาให้ดีเอสไอ และเมื่อมีการส่งเรื่องมาดีเอสไอมีหน้าที่พิสูจน์ทราบว่ามีแนวโน้มจะเป็นอย่างไร หลังจากที่รวบรวมมาแล้ว ดีเอสไอก็รายงานมายังตนว่ามีข้อมูลที่น่าจะพิสูจน์ทราบได้ว่า น่าจะเป็นปัญหา ซึ่งก่อนที่จะนำเรื่องเข้ามาตนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนิติบัญญัติแห่งชาติ ถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมาจะเสียหายต่อสถาบันหลักของชาติ ตนถึงมองว่าอย่าใช้อารมณ์หรือมองว่าเป็นความรู้สึกในการกลั่นแกล้งทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ต้องมีข้อเท็จจริงมารองรับอย่างชัดเจน และหากกฎหมายอนุญาตให้ดีเอสไอทำ จึงจะสามารถทำได้
นายภูมิธรรม ยอมรับว่า รู้สึกตกใจกับข้อกล่าวหาอั้งยี้ซ่องโจร ตนจึงได้ตั้งคำถามไปว่าใช้ข้อกล่าวหานี้ไม่รุนแรงไปใช่หรือไม่ เพราะเป็นคำพูดที่รุนแรง ซึ่งดีเอสไอระบุว่าเป็นคำพูดทางกฎหมายที่มีมานานแล้ว ข้อและเรื่องนี้เข้ากฎหมายข้อนั้นจึงต้องดำเนินการตามนั้น วันนี้ก็ต้องเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาให้กรรมการฯดูให้ชัดเจน ถ้ากรรมการทั้งหมดดูแล้วเห็นว่าเป็นปัญหา ก็ต้องถามว่า ตามข้อกฎหมายเป็นอำนาจของดีเอสไอหรือไม่ ถ้าชัดเจนแล้วดีเอสไอก็จะเดินหน้าทำตามหน้าที่ โดยต้องโหวตให้ได้ 2ใน 3 หรือ 15 เสียง จาก 22 เสียง ใครไม่มา หรือหลบ หรือติดภารกิจก็ไม่นับ แต่ต้องได้ 15 เสียง
ส่วนการประชุมจะจบในวันนี้ หรือหากยังไม่ชัดเจนต้องต่อเวลาออกไป นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่คิดขอดูข้อเท็จจริงวันนี้ หากข้อเท็จจริงชัดก็เดินหน้า แต่หากจะมีอะไรขาดตกบกพร่องก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับที่ ประชุม เพราะข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของที่ประชุมด้วย

สรุปข่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่ สว.ระบุว่าจะฟ้องกลับมีความกังวลหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าเราไม่ได้หวั่นไหวอะไรเราทำตามหน้าที่ หากฟ้องก็ต้องไป กกต. เพราะกกต. เป็นคนยื่นเรื่องมายังดีเอสไอ ถ้าดีเอสไอดูแล้วไม่มีมูลก็ตัดเรื่องนี้ทิ้งไป ซึ่งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอยู่ที่มุมมอง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่กรรมการทั้ง 22 คนต้องใช้ดุลยพินิจ ทั้งข้อ กฎหมายและข้อเท็จจริง ไม่เอาความชอบความเกลียดประเด็นทางการเมือง เข้ามาประกอบการตัดสินใจครั้งนี้
เมื่อถามย้ำ ถึงต้นตอของการตรวจสอบเรื่องนี้ มาจาก กกต. เป็นคนยื่นเรื่องใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องคือ กกต.ยื่นมา ต้องไปถาม กกต. เพราะ กกต. ส่งเรื่องให้ดีเอสไอ
เมื่อถามว่า สว. มีความเป็นห่วงถึงการใช้กระบวนการของดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบอาจโดนการเมืองแทรกแซง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปดูที่ กกต. เป็นความรับผิดชอบของนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่ส่งเรื่องมาให้ดีเอสไอ เมื่อนายแสวง ส่งเรื่องมาก็ต้องคิดว่ามีเรื่องอะไรดีเอสไอตรวจสอบ
” นี่ตนเดานะไม่เช่นนั้นก็จะไม่ส่งเรื่องมาให้ดีเอสไอ ไม่ใช่ดีเอสไอไปหาคดีมาทำ คุณแสวงก็ต้องชี้แจง“ นายภูมิธรรม กล่าว
ทั้งนี้หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ และจบกระบวนการของดีเอสไอแล้วจะต้องส่งเรื่องไปที่ศาลใด นายภูมิธรรม กล่าว กฎหมายให้อำนาจดีเอสไอหากพิจารณาแล้วก็ต้องยื่นศาลซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ และอัยการสูงสุดก็อยู่ในคณะกรรมการชุดนี้อยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่าสังคมมองว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง นายภูมิธรรมกล่าวว่า สังคมให้ความสนใจและรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่อง การเมืองตนไม่แน่ใจว่าสังคมรู้สึกแบบนั้นหรือไม่ แต่ที่สังคมให้ความสนใจและคิดว่าหากเป็นเรื่องจริง เป็นความเสียหายต่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะกระทบกับภาพรวมการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่กระทบเพราะการทำงานของรัฐบาลอยู่บนพื้นฐาน ความบริสุทธิ์และยุติธรรม และทำทุกอย่างตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ว่าพรรคไหน คนของพรรคใดกระทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบ
ส่วนจะกระทบกับเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องคิดว่าทุกคนมีสามัญสำนึกและจิตสำนึกที่ดีที่ถูกต้อง ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วกระทบทางการเมือง ก็แสดงว่าการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของ สว. ถ้าคิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ถ้ารู้สึกว่าจะโดนพรรคนั้นพรรคนี้ ก็แสดงว่าพรรคนั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง หรืออาจจะมีดุลยพินิจแบบนั้นก็ได้ขออย่าคิดไปไกลแบบนั้น เอาตามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรและการตัดสินใจทางกฎหมายถูกต้องหรือไม่
เช่นเดียวกับ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกรรมการคณะกรรมการคดีพิเศษ ยืนยันหลักการการพิจารณาคดีพิเศษว่าเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนโฟกัสไปที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยด้วย นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะพิจารณาตามกฎหมาย อะไรที่เป็นข้อมูลก็จะพิจารณาตามนั้น เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เมื่อเป็นเรื่องของการเมือง จะทำให้บอร์ดมีความลังเล นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ไม่กังวล และตนเป็นประธานบอร์ดหลายคณะ ก็ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย หากมีข้อมูลอย่างไรก็ชี้ไปตามนั้น เพราะในระบบราชการก็มีอาวุโสเยอะ
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ไม่เคยคิดอะไร หากอะไรที่เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา เมื่อมีหน้าที่ก็ต้องมีการดำเนินการ ยืนยันว่า การประชุมที่ผ่านมาไม่มีแรงกดดันอะไร เมื่อถามอีกว่า การลงมติวันนี้จะใช้ดุลพินิจตัวเองใช่หรือไม่ นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า จะใช้ข้อกฎหมายเป็นหลัก
ภายหลังสัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายอรรษิษฐ์ ได้ชูนิ้วโป้งข้างซ้าย และพูดดัง ๆ ว่า “ครับผม”
ขณะที่นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้