“แพทองธาร” นำคณะกลับไทยแล้ว ชูผลสำเร็จเยือนจีน จับมือเดินหน้าทุกมิติ

เมื่อเวลา10.00 น.(ตามเวลานครฮาร์บิน เร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง ) วันที่8 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฮาร์บินไทผิง นครฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง โดยจะถึงจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง เวลาประมาณ15.30 น.

“แพทองธาร” นำคณะกลับไทยแล้ว ชูผลสำเร็จเยือนจีน จับมือเดินหน้าทุกมิติ

สรุปข่าว

นายกฯ นำคณะเดินทางกลับไทย โพสต์ผลสำเร็จเยือนจีน จับมืออุตสาหกรรมอนาคต เดินหน้ารถไฟไฮสปีด-ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-แก้ฝุ่นพิษ เร่งขับเคลื่อนให้เห็นผลโดยเร็ว

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้โพสต์ข้อความผ่านสังคมออนไลน์ เปิดเผยถึงผลการเดินทางยืนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ว่า นอกเหนือจากการเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผลสำเร็จจากการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ยังได้พบหารือกับผู้นำระดับสูงของจีนอีกสองท่านที่กรุงปักกิ่ง คือ  ประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง และได้ขอบคุณที่เชิญเยือนและต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งสองฝ่ายพร้อมกระชับความร่วมมือในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล เช่น EV AI เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานทางเลือก การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เชื่อมโยงนวัตกรรมทางการเงินและตลาดทุน การพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงรถไฟความเร็วสูง ตลอดจนหารือแนวทางร่วมมือแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่สำคัญ เราจะยกระดับความร่วมมือแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาคอลเซ็นเตอร์

และยังได้เชิญนายกรัฐมนตรีหลี่ฯ เยือนไทยในโอกาสปีทองแห่งมิตรภาพไทย – จีน ซึ่งได้ตอบรับด้วยความยินดี และได้ร่วมกับท่านนายกหลี่ฯ เป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือสองฝ่ายรวม 13 ฉบับ ครอบคลุมผลประโยชน์หลายสาขา เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีนิวเคลียร์ อวกาศ และ AI

นอกจากนั้นได้พบหารือท่านจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเราเห็นพ้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น และส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ด้วยทุนการศึกษา วัฒนธรรม และ soft power  โดยทั้งหมดนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเร่งรัดการดำเนินผลให้เป็นรูปธรรมในโอกาสแรก เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน และการดำเนินความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งในอนาคต 50 ปีข้างหน้าต่อไป 

ที่มาข้อมูล : FB แพทองธาร ชินวัตร

ที่มารูปภาพ : FB แพทองธาร ชินวัตร