เลขาป.ป.ช. แย้มคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจมีน้ำหนักหากชี้จุดเกิดเหตุ

นายสาโรจน์ พึงรําพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงคืบหน้ากรณีสอบสวนการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ป.ป.ช.ได้มีการไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ในเรื่องพยานบุคคล และเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มาให้ข้อเท็จจริง เพราะเป็นพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางคณะกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน ก็ลงไปร่วมไต่สวนด้วย 

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าจะไปร่วมตรวจสถานที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยนั้น นายสาโรจน์ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน เพื่อดำเนินการตามที่ให้ข้อมูลไว้

ขณะที่การให้ถ้อยคําของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด นายสาโรจน์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ให้มาต้องนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ว่าสอดคล้องต้องกันหรือไม่ และหากท่านไปชี้จุดยืนยันที่สถานที่ ก็จะทำให้มีน้ำหนักมาขึ้น แต่ก็ต้องดูพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบกัน

ส่วนนอกจากการให้ปากคำแล้ว มีการมอบพยานหลักฐานอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ถ้อยคำหรือมอบหลักฐานอะไร เพราะเป็นเรื่องของคณะไต่สวน

ส่วนการทำคดีนี้ยากหรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพล และมีชื่อเสียงในแวดวงการเมือง นายสาโรจน์ ระบุว่า เป็นเรื่องปกติที่ ป.ป.ช.ทำอยู่แล้ว โดนเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหรือทางการเมือง เรทมีหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว อาจจะมีข้อขัดข้อง บ้าง แต่เราก็ต้องดำเนินการตามหน้าที่ และอาจต้องใช้เวลาสักนิดหนึ่งในการได้พยานหลักฐานแต่ละส่วน

เลขาป.ป.ช. แย้มคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจมีน้ำหนักหากชี้จุดเกิดเหตุ

สรุปข่าว

”เลขาฯ ป.ป.ช.“ ปัดตอบ ข้อมูล “เสรีพิศุทธ์” มีนํ้าหนักหรือไม่ หลังเรียกสอบปมชั้น 14 แย้ม หากไปชี้จุดที่ รพ.ตํารวจ อาจมีน้ำหนักขึ้น ฮึ่ม หน่วยงานอิดออด ไม่ส่งเอกสาร-เวชระเบียน อาจฟันด้วย กม. บอกไม่จำเป็น เรียก “ทักษิณ” มาให้ถ้อยคำ

สำหรับการวางกรอบเวลาไว้เท่าไหร่นั้น นายสาโรจน์ กล่าวว่า ก็มีกรอบเวลาตามกฎหมายในเรื่องที่เร่งรัด แต่ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนของพยานหลักฐาน หากครบสมบูรณ์ ป.ป.ช.ก็สามารถพิจารณาได้ ไม่ต้องถึงเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

ส่วนจะเรียกบุคคลที่พา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปพบกับนายทักษิณ มาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า หากเป็นพยานที่ยึดโยงกับพยานปากอื่นๆ และหากการไต่สวนเห็นว่ามีความจำเป็น ก็ต้องเรียกมาให้ข้อมูล เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่า สิ่งที่พยานให้ข้อมูลถูกต้องหรือไม่ พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะไต่สวน


ส่วนจะต้องเชิญนายทักษิณมาให้ถ้อยคำด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ ตอบว่า ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะหากมีพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนหรือต่อให้ไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลย ก็ไม่มีเหตุไปเชิญ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการไต่สวน

ส่วน ป.ป.ช. ได้รับความร่วมมือจาก รพ.ตำรวจ ในการขอเอกสารหรือเวชระเบียนบ้างหรือไม่นั้น นายสาโรจน์ กล่าวว่า เราเคยขอไปในชั้นตรวจสอบ แต่ยังไม่ได้มา ซึ่งในชั้นไต่สวนได้มีการขอไปอีกครั้ง แต่ได้มาแล้วหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ


ทั้งนี้จะต้องถึงจุดไหนที่จะสามารถบังคับให้ส่งข้อมูลมา เนื่องจากมีระยะเวลามานานแล้ว นายสาโรจน์ กล่าวว่า ในชั้นไต่สวนก็ใช้อำนาจทางกฎหมายแล้ว แต่หากไม่ส่งหรือดำเนินการก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป


ส่วน ป.ป.ช.จะขอข้อมูลจากแพทยสภาหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ รพ.ตำรวจเคยมีการส่งข้อมูลไปให้แพทยสภาก่อนแล้ว นายสาโรจน์ กล่าวว่า อะไรที่เป็นพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม 

ทั้งนี้ หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ รพ.ตำรวจ ยังโยนกันไปมาแบบนี้ จะต้องมีการพิจารณาโทษอื่นร่วมด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า ต้องดูว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพราะตามข่าวคือ สตช.มอบหมายให้ รพ.ตำรวจ ซึ่งเขามีข้อขัดข้องกันหรือไม่ตนเองไม่ทราบต้องดูต่อไป

ที่มาข้อมูล : tnn

ที่มารูปภาพ : tnn