นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่มีเครือข่ายพรรครวมไทยสร้างชาติได้รับการเลือกตั้งนั้นว่า ที่ผ่านมาพรรคประกาศชัดเจนว่าไม่ได้ส่งผู้สมัครใดในนามพรรคแต่คนที่ได้รับการเลือกตั้งก็ถือว่าเป็นเครือข่ายพรรค ที่ออกมาก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจเพราะเครือข่ายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับเลือก ทั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางโสภา กาญจนะ ว่าที่ นายกอบจ. ที่ทั้งลูกสาวและลูกสะใภ้เป็น สส.พรรค รทสช. และนายชุมพล กาญจนะ สามีก็เป็นที่ปรึกษาของพรรค และนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร ว่าที่ นายก อบจ.จ.พัทลุง เป็นรองหัวหน้าพรรค รทสช. ขณะที่จ.ชุมพร นายนพพร อุสิทธิ์ ว่าที่นายก อบจ.ซึ่งเป็นน้องเขย นายสุพล จุลใส สส.พรรค รทสช. และกวาด สจ.26 คนจาก ทั้งหมด 28ที่นั่ง จึงถือว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจ นอกจากตัวนายก อบจ. แล้วยังมี สจ.ที่ต้องบอกว่ามีความใกล้ชิดกับพรรคได้รับเลือกตั้งเป็นจำนวนมากซึ่งตนเองได้คำนวณดูแล้วทั่วประเทศมากกว่า 100 คนที่ต่อไปนี้จะเป็นเป็นเครือข่ายและเป็นทีมงานสำคัญของพรรครทสช. โดยก่อนหน้านี้ การเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคให้เป็นสิทธิ์ประชาชนแต่ละพื้นที่ให้เลือกคนที่ดีที่สุดในการบริเข้าไปบริหารพื้นที่ แต่ก็เป็นผลดีของพรรคที่มีผู้สมัครนายก อบจ.เป็นเครือข่ายของพรรคที่ประสบผลสำเร็จหลายคน
สรุปข่าว
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งนายกอบจ. และการ สจ.ในครั้งนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้าของพรรค รทสช.หรือไม่ นายเอกนัฎ กล่าวว่า ทำให้พรรคมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเพราะตอนที่ทำให้พรรคในครั้งแรกเริ่มต้นจากศูนย์ สส.ก็ไม่มี สจ.ก็ไม่มี ชื่อพรรคคนจำไม่ได้มาวันนี้แล้วพรรค รทสช.มีจุดยืนที่ชัดเจนและสื่อสารออกไปให้ประชาชนได้เห็น และก็ได้รับการตอบรับ ที่ดี อีกทั้งพรรคมีเครือข่ายที่เข้มแข็งมี สส. 36 คนและวันนี้มี นายกอบจ. และสจ.ที่จะเป็นเครือข่ายทีมทั่วประเทศไม่ใช่เฉพาะแค่พื้นที่ภาคใต้ แต่ในพื้นที่ภาคใต้ก็หนาแน่นหน่อย และมีอีกหลายจังหวัดแม้ไม่ได้มีนายก อบจ. แต่ก็มี สจ.ที่เข้าไปช่วย เช่นจังหวัดภูเก็ต ที่ชัดเจนนายเรวัต อารีรอบ ว่าที่นายก อบจ.จ.ภูเก็ต ประกาศในนามลงอิสระแต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากทีมงานพรรค รทสช.ในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ เช่นเดียวกับ จ.นราธิวาส จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้ สจ.ครบทุกคนและยังไม่นับ จ.ราชบุรี จ.พิษณุโลก หลายที่ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ
เมื่อถามว่า มีพื้นที่ฐานเสียงในพื้นที่ภาคใต้แล้วการขยายไปยังพื้นที่อื่นๆวางแผนอย่างไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า การขยายฐานทางการเมืองก็ต้องทำ 2 ส่วนส่วนแรกคือทำงานให้เกิดความศรัทธานั่นก็คือการสร้างกระแสในส่วนนี้ ทั้งหัวหน้าพรรคและตนเองก็พยายามพิสูจน์ตนเองด้วยผลงานที่ได้ทำให้กับกระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนที่ 2 คือต้องมีเครือข่ายการเมืองที่เข้มแข็งซึ่งท้องถิ่นก็ต้องยอมรับว่าเป็นปัจจัยหนึ่งของเครือข่ายการเมืองที่ต้องสร้างขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นเที่ยวนี้ในพื้นที่เดิมก็ปักหลัก ได้อย่างมั่นคงและขยายในพื้นที่ใหม่ได้อีกเยอะพอสมควรมั่นใจว่าเที่ยวหน้าพรรค รทสช.ก็จะได้รับทั้งคะแนนนิยมคะแนนเลือกตั้งในแต่ละเขตมากขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า ดูจากผลการเลือกตั้งนายกอบจ. ในพื้นที่ภาคใต้อาจเป็นแนวโน้มสูงว่าการเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไปจะเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ เห็นว่า ก็เป็นไปได้ ในการเลือกตั้งแข่งกันหมดและแข่งกันทุกพรรคเพียงแต่ว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็ต้องมาดูและแนวโน้มคงเป็นรัฐบาลผสมอีกก็ต้องมามาคุยกันแต่การเลือกตั้งทุกคนต้องแข่งขันกันหมด