“สุวัจน์” หย่อนบัตรเลือกอบจ. แนะอบจ.ทำงานร่วมกับรัฐบาล

วันที่ 1 กุมภาพันธุ์ 2568 เวลา 9.30 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา ได้เดินทางมาเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา โดยตรวจรายชื่อผู้มีสิทธิ์พร้อมแสดงบัตรประชาชนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 25 โดยมีชื่อที่อยู่บ้านเลขที่ 2222/2 ลำดับที่ 244 ก่อนรับบัตรลงคะแนนจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเข้าคูหากากหมายเลขทั้งบัตรนายก อบจ. และ ส.อบจ. โดยใช้เวลา 10 นาที 

ทั้งนี้ หน่วยเลือกตั้งเดียวกันมีชื่อ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาอยู่ในลำดับที่ 245 ซึ่งได้แจ้งว่าจะเดินทางไปใช้สิทธิ์ในช่วงบ่าย เนื่องจากช่วงเช้าติดภารกิจ จึงไม่ได้เดินทางมาพร้อมกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ  



“สุวัจน์” หย่อนบัตรเลือกอบจ. แนะอบจ.ทำงานร่วมกับรัฐบาล

สรุปข่าว

"สุวัจน์" หย่อนบัตรเลือกตั้ง นายกอบจ สจ. ที่โคราช ให้การเมืองทำงานตามที่หาเสียงให้ไว้กับประชาชน แนะ อบจ.ประสานและต่อยอด โครงสร้างพื้นฐาน ที่รัฐบาลลงทุนไว้ ให้เกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่น

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า วันนี้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งอบจ.โคราช แต่เช้า ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าพี่น้องประชาชนมาใช้สิทธิ์กันเยอะก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้ามาใช้สิทธิ์กันเยอะจะเป็นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยของเราให้มีความมั่นคง ยิ่งใช้สิทธิ์กันเยอะยิ่งได้คนดีที่สุดมาทํางานให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่ เป็นจังหวัดที่มีพื้นฐานในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ 
ถ้าทําเศรษฐกิจที่โคราชให้ดีก็จะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศ  เพราะจีดีพีของโคราชมีส่วนสําคัญกับจีดีพีของประเทศไทย และศักยภาพของจังหวัด ทรัพยากรต่างๆ ที่มีในเรื่องเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลได้ดําเนินการอยู่ในปัจจุบัน สามารถที่จะนํามาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยส่วนรวมได้


ฉะนั้น บทบาทหน้าที่สำคัญของนายก อบจ.โคราช ก็คือ การที่จะประสานและต่อยอดกับโครงการใหญ่ๆ นโยบายใหญ่ๆ ของภาครัฐ โดยใช้พื้นฐานที่มีอยู่แล้วในจังหวัดนครราชสีมา ให้เกิดประโยชน์ โดยภาพรวม คือ เป็นลักษณะทํางานประสานกัน ส่วนนโยบายที่หาเสียงไว้พรรคการเมืองไหนแถลงอะไรไว้ ก็ควรจะทําตามนั้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความรู้สึกว่าการเมืองเชื่อถือได้ การเมืองมีเครดิต 
ฉะนั้น การเมืองก็จะมีพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน อยากให้พวกเราได้พยายามรักษาบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างภาคการเมืองกับภาคประชาชน หาเสียงไว้อย่างไร ก็ต้องพยายามทําให้สําเร็จในสิ่งที่เราได้พูดเอาไว้


นายสุวัจน์ กล่าวว่าตอนนี้เป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจมาก อยากให้ใช้เสถียรภาพของรัฐบาลโดยการมุ่งมั่นในการทํางานเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจลุล่วง โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว ถือว่าตัวเลขได้ขยับแล้ว ตอนนี้รัฐบาลได้พยายามเร่งรัดในเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ เรื่องของการลงทุน เรื่องของการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และเชื่อว่าปีนี้น่าจะเข้าเป้าในเรื่องของจํานวนนักท่องเที่ยว และนำพื้นฐานเรื่องการท่องเที่ยวมาช่วยเศรษฐกิจรากหญ้าได้มาก โดยภาพรวมปีนี้น่าจะกระเตื้องกว่าปีที่แล้ว คือ ปีที่ผ่านมาเรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 35 ล้านคน ซึ่งก่อนโควิดมีนักท่องเที่ยวมา 40 ล้านคน ยังขาดอยู่อีก 4 ล้านคน ประมาณ 10% ฉะนั้น ปีนี้ต้องทําให้เกิน 40 ล้านคนให้ได้ ถ้าตัวเลข 40 ล้านคน จะเป็นดัชนีชี้วัดว่าเศรษฐกิจจะคัมแบ็คหรือไม่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายที่สําคัญทางด้านเศรษฐกิจด้านอื่นด้วย

ฉะนั้น ถ้าบรรยากาศภายในประเทศเป็นใจไม่มีปัญหาอะไร และช่วยกันจัดกิจกรรมอะไรให้มันดูยิ่งใหญ่ เป็นสากลเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเยอะๆ ดูแลความปลอดภัยต่างๆให้กับนักท่องเที่ยวก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจดีขึ้น

ที่มาข้อมูล : tnn

ที่มารูปภาพ : tnn