สนามนายก อบจ.นราฯ เข้มข้น "กล้าธรรม-ภูมิใจไทย" ผนึกกำลังปิดสวิตช์คู่แข่ง

วันที่ 25 ม.ค.เวลา 20:00 น. ณ สนามกีฬาเทศบาลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ได้มีการเปิดปราศรัยและการแสดงวิสัยทัศน์ของนายอับดุลลักษณ์ สะอิ ( แบเลาะห์ )ผู้สมัครนายกอบจ.นราธิวาส หมายเลข 2 โดยไลท์ สำคัญ คือมี สส.จากหลายเขต และต่างพรรคการเมือง พร้อมใจร่วมขึ้นปราศรัยขอคะแนนให้ นายอับดุลลักษณ์ สะอิ อย่างคึกคัก  ได้แก่ 2 สส.จากพรรคกล้าธรรม คือ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รวมถึงนายซาการียา สะอิ สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะน้องชายนายอับดุลลักษณ์ นอกจากนั้น ยังมีแกนนำพรรค เช่น นายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาสหลายสมัย และเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ อาทิ นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาสร่วมด้วย

โดยนายอับดุลลักษณ์ กล่าวกับประชาชนว่า ตนคิดว่านราธิวาสต้องเปลี่ยนให้ได้ ตนมั่นใจเพราะจากการพบปะกับชาวบ้าน มีการตอบรับว่า เราจะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน เมื่อตนได้เข้ามาทำหน้าที่ ตนจะทำตามนโยบาย 5 ข้อ คือ 1.ร่วมพัฒนาแผนพัฒนาทุก 2.จะทำเวทีประชาคมของทุกอำเภอ เพราะตลอด 25 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งนี้เกิดขึ้นในจังหวัดนราธิวาสของเรา การที่เราจะรู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในพื้นที่บ้างเราก็รู้จักประชาชนโดยตรง ถึงจะสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด เพราะแต่ละพื้นที่ก็มีความแตกต่างของปัญหากันออกไป 3. อบจ.จะนำกีฬามาแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับเยาวชน 4. เราจะนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากทุกอำเภอทุกพื้นที่นำมาพัฒนาร่วมกันเพื่อนำไปสู่การออกไปยังตลาดในประเทศและนอกประเทศ 5. เราจะจัดตั้งหน่วยกู้ภัยกู้ชีพเพื่อที่จะให้ทันต่อภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นทั่วพื้นที่นราธิวาสซึ่งจะทำให้เราสามารถดูแลประชาชนของเราได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ 


สนามนายก อบจ.นราฯ เข้มข้น "กล้าธรรม-ภูมิใจไทย" ผนึกกำลังปิดสวิตช์คู่แข่ง

สรุปข่าว

การปราศรัยครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญของนายอับดุลลักษณ์ สะอิ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจาก ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนมาก เน้นชูนโยบายพัฒนานราธิวาสให้เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่อง เยาวชน กีฬา นวัตกรรม และระบบกู้ภัย พร้อมประกาศว่าจะ ลงมือทำทันที โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมาก

“สิ่งเหล่านี้ผมจะทำให้ได้ เพราะการมาของผมในวันนี้ ไม่ได้มาคนเดียว ผมมาเป็นทีม เราจะทำงานกันเป็นเครือข่าย โดยร่วมกับประชาชนทุกคน เพราะผมเชื่อว่าการทำงานเพียงคนเดียวไม่มีทางประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเรามีทีม มีเครือข่าย เราจะสามารถนำนราธิวาสเข้าสู่การพัฒนาให้เท่าเทียมกับหลาย ๆ จังหวัดได้ ดังนั้นผมจึงเสนอตัวเพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงจังหวัดนราธิวาส สิ่งที่ผมพูดไปไม่ใช่แค่คำสัญญา แต่ผมจะทำให้เห็นว่า ได้ลงมือทำจริงและทำทันที โดยไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเราจึงสามารถขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวได้ทันที”นายอับดุลลักษณ์ กล่าว  

ด้านนายอามินทร์ กล่าวปราศรัยว่า ขอบคุณชาวนราธิวาส ที่มาร่วมฟังปราศัยเพื่มขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้  ซึ่งวันนี้มีมากกว่า 8000 คน และตนก็มั่นใจว่า พร่งนี้ ที่อำเภอ โกลก อย่างน้อยต้องถึง 10,000 คน และในวันที่ 30 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่อำเภอเมือง อย่างน้อยต้อง 20,000 คน 

" พ่อแม่พี่น้องครับ กว่า 25 ปียุคของ 3 พ่อลูก ผู้นำคนเก่าไม่ค่อยได้ทำอะไร เมื่อตนเข้ามาเป็น สส.จึงเป็นโอกาสให้ตนได้พัฒนาในพื้นที่ของเรา ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมาเราห็นอะไรในการเปลี่ยนแปลงบ้าง  มีอะไรที่พัฒนาขึ้นบ้าง วันนี้เรามี 3 สส.เราสามารถประสานได้หลายกระทรวง การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ครั้งนี้เราจะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน อำเภอรือเสาะ เป็นพื้นที่ ๆ มีเยาวชนจำนวนมาก แต่ อบจ.คนเดิมให้ความสำคัญอะไรกับเยาวชนบ้าง จริงๆแล้วเรามีสภาเด็กแล้วเยาวชนแต่ยกเว้นที่นี่ เราไม่เคยมี แต่ครั้งนี้เราจะผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อพัฒนาเยาวชนของเราที่ถือว่าเป็นเสาหลักของประเทศชาติ เราจะแสดงให้เห็นว่าเด็กๆ ของพวกเราจะมีความสำคัญมากขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องกีฬาที่เราจะสนับสนุนให้กับลูกหลานของเราให้เทียบเท่ากับจังหวัดอื่น ๆ ผมไม่ได้ต้องการโจมตีใคร แต่นี่คือการเปิดหูเปิดตาให้กับประชาชนว่า เราสามารถทำอะไรได้บ้างแต่ที่ผ่านมาทำไมถึงไม่เคยทำ“นายอามินทร์ กล่าว

ด้านนายไพซอล อาแว กล่าวว่า 25 ปีเราไม่เคยเจอการปราศรัยในเวที อบจ.แต่ครั้งนี้คือประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาเราแทบจะลืมคำว่า นายก อบจ.ไปแล้ว แต่รอบนี้เป็นความหวังของชาวนราฯทุกคน เพราะเราได้รวมตัวกันให้เป็นหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้เกิดน้ำท่วมหายนะครั้งใหญ่ เป็นประวัติการณ์ เราได้เห็นพี่น้องของเราหลั่งน้ำตา บางท่านไม่มีบ้าน บางท่านนั่งอยู่บนหลังคา ตนขอถามว่า อบจ.ทำอะไรบ้าง การเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ถ้าเราเปลี่ยนแสดงว่า เราได้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของนราธิวาสแล้ว ตนฝากว่า การทำงานรอบนี้ไม่ใช่การทำงานแค่คนเดียว เราจะทำงานกันทั้งทีม คนไหนถนัดอะไรก็จะดูแลเรื่องนั้น ขอให้ทุกคนมาร่วมพลิกประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน


ด้านนายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส กล่าวว่า ถึงตนกับ สส.บีลาและ สส.อามินทร์ จะสังกัดคนละพรรคการเมือง แต่พวกเราคือ พรรคพวกกัน หากเราร่วมกันเดินหน้าพัฒนาจังหวัดนราธิวาสบ้านเรา ตนเชื่อว่านราธิวาส จะเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน วันนี้จังหวัดอื่นๆทั่วประเทศเล็งเห็นความสำคัญด้านการศึกษาปูพื้นฐานตั้งแต่เป็นเด็กเยาวชน ซึ่งถือว่าเป็นฐานรากที่เข้มแข็งของประเทศ แต่บ้านเรายังแข่งกับเขาไม่ได้ รวมถึงโรงเรียนสอนศาสนา หรือ ตาดีกา ที่บางแห่งยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือจากต่างประเทศ  

“ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้ดีว่า นายอับดุลลักษณ์ จะมาทำอะไรให้กับทุกท่าน วันนี้การเปลี่ยนแปลงของอำเภอรือเสาะ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจังหวัดนราธิวาส เพราะทุกท่านทราบกันดีว่า ที่ผ่านมา 25 ปีที่ เราได้อะไรจาก อบจ.บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา แต่วันนี้เราจะการสร้างอาคารเอนกประสงค์เพื่อเป็นโรงเรียนสอนศาสนาให้กับทุกพื้นที่ เพราะปัจจุบันเรามีอยู่เพียง 2 แห่งเท่านั้น “นายซาการียา กล่าว

นายซาการียา กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ตนต้องพูดเรื่องการเรียนศาสนา เพราะถ้าคนเรามีก็จะมีจริยธรรมไปสอนให้เด็กมีจริยธรรม เป็นคนดีในสังคมได้ ซึ่งตนเชื่อว่าทุกท่านอยากให้ลูกหลานประสบความสำเร็จ มีหน้าที่การงานทำดี ๆ แต่วันนี้ เราขาดโอกาสเราไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก อบจ.ที่จะให้มีติวเตอร์ดี ๆ มาสอนให้เยาวชนของเรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังสิ้นสุดการปราศัยและปิดเวที  นายอับดุลลักษณ์ สะอิ ( แบเลาะห์ ) ได้นำคณะออกมายืนหน้าเวที เพื่อกล่าวขอบคุณพ่อแม่พี่น้องจากอำเภอรือเสาะและศรีสาคร รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่มาร่วมรับฟังนโยบายและให้กำลังใจ ในครั้งนี้ 

อย่างไรก็ตาม  ในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค. 2568 ) มีรายงานว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า  และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ จะไปช่วยหาเสียงที่เวที สุไหงโก-ลก เวทีใหญ่สวนมิ่งขวัญประชา ตั้งแต่เวลา19.00 น. เป็นต้นไป

ที่มาข้อมูล : กล้าธรรม

ที่มารูปภาพ : กล้าธรรม