สรุปการประชุมสุดยอด 'ไบเดน-สี' ที่เริ่มจากทักทายเพื่อนเก่า สู่ปมร้อนประเด็นไต้หวัน
จบสิ้นลงแล้วกับการประชุมสุดยอดผู้นำจีนและสหรัฐฯ ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดย'สี จิ้นผิง' ทักทายเพื่อนเก่า ขอ 'ไบเดน' นำนโยบายต่อจีนกลับสู่ภาวะปกติ
นับเป็นการหารือสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-จีน ครั้งที่ 3 แล้วหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ดูจะถูกจับตามากที่สุด เพราะหลายเดือนมานี้ สหรัฐฯ มีทีท่าที่แข็งกร้าวขึ้นมาก โดยเฉพาะในประเด็นไต้หวัน
ภายหลังการประชุมร่วมกันนานถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ หรือช่วงเช้าที่ผ่านมาในประเทศไทย ทั้งจีนและสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์จากทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุว่า นี่คือการหารือเพื่อการแลกเปลี่ยน ที่ทางจีนระบุว่า การประชุมครั้งนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ประธานาธิบดีสี ได้กล่าวก่อนเริ่มต้นหารือว่า ทั้ง 2 ประเทศควรแสวงหาการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน พร้อมกันนี้ สีได้กล่าวว่า เขายินดีอย่างมากที่ได้เจอ "เพื่อนเก่าแก่" อย่างไบเดน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวเรียกร้องให้ทั้งจีนและสหรัฐฯ "มองหาหนทางที่จะอยู่ร่วมกัน" พร้อมขอให้นำพานโยบายต่อจีนกลับคืนสู่ทิศทางที่ถูกต้อง
สี ระบุว่า เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ทั้ง 2 ประเทศจะมีความแตกต่างกัน แต่ทั้ง 2 ควรเดินหน้าจัดการและหลีกเลี่ยงความตึงเครียดระหว่างกัน และเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น
จีนพร้อมที่จะร่วมเจรจาและให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯในประเด็นต่าง ๆ ที่ครอบคลุมมากขึ้น ทั้ง การพัฒนาเศรษฐกิจ, พลังงาน, การทหาร, การศึกษา, เทคโนโลยี, ไซเบอร์สเปซ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม
"ในอีก 50 ปีข้างหน้า สิ่งสำคัญที่สุดในความสัมพันธ์นานาชาติคือ การที่จีนและสหรัฐฯ จะต้องหาหนทางในการอยู่ร่วมกัน และสิ่งใดก็ตามที่นักการเมืองได้กระทำ ไม่ว่าจะด้วยดีหรือไม่ดี จะต้องถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์...จึงหวังอย่างยิ่งว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะแสดงบทบาทในฐานะผู้นำทางการเมืองและผลักดันนโยบายสหรัฐฯต่อจีน ให้กลับคืนสู่หนทางที่ถูกต้อง" สี จิ้นผิง กล่าว
ไม่เพียงเท่านี้ จีนยังเตือนสหรัฐฯ ถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับไต้หวัน ว่า หากมีความพยายามในการยั่วยุใด ๆ เพื่อให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนของไต้หวันออกไปจากเส้นแดงที่จีนขีดไว้, จีนก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากการดำเนินมาตรการที่รุนแรงที่สุด
"เราควรเคารพกันและกัน และต่างคนต่างจัดการเรื่องภายในของตัวเองให้ดี และในเวลาเดียวกัน ก็ควรแสดงความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสันติภาพและการพัฒนาให้มากขึ้น" สี กล่าว
แถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาว ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยินดีอย่างยิ่งกับโอกาสที่ได้พูดคุย "อย่างตรงไปตรงมา" กับประธานาธิบดีสี และการเจรจาครอบคลุมในหลายประเด็น
"เรื่องไต้หวัน ปธน.ไบเดนขีดเส้นย้ำว่าสหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นในนโยบาย 'จีนเดียว' ตามกฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวัน หรือ Taiwan Relations Act ที่ประกอบด้วยคำแถลงร่วม 3 ฉบับ และหลักประกัน 6 ประการ”
“และสหรัฐฯ คัดค้านอย่างยิ่งต่อความพยายามฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ หรือการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งช่องแคบไต้หวัน" แถลงการณ์ระบุ
ไบเดนย้ำว่า ประเด็นสำคัญในการหารือครั้งนี้ ยังประกอบด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน, เศรษฐกิจ และเสรีภาพและเสถียรภาพในอินโดแปซิฟิก
ส่วนประเด็นการค้า ไบเดนระบุว่า "จำเป็นต้องปกป้องแรงงานอเมริกัน และอุตสาหกรรมจากการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากจีน"
ขณะที่ปธน.สี กล่าวตอบโต้ว่า "สหรัฐฯเองก็ควรต้องหยุดใช้แนวคิดเรื่อง 'ความมั่นคงของชาติ' ในการกดขี่บริษัทจีนในทางที่ผิด"
ส่วนเรื่องซินเจียง, ทิเบต และฮ่องกง ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในการหารือครั้งนี้ด้วย แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดไว้ในแถลงการณ์แต่อย่างใด
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล
ภาพ: Reuters