สหรัฐฯ จับตา "โรคฝีดาษลิง" ระบาดแล้ว 27 รัฐ
สหรัฐฯ ผวาโรค "ฝีดาษลิง" ระบาด เฝ้าระวังประชาชนกว่า 200 คนใน 27 รัฐ ที่อาจสัมผัสใกล้ชิดกับชายที่ติดเชื้อมาจากไนจีเรีย
วันนี้ (22 ก.ค.64) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้ว่า มีประชาชนมากกว่า 200 คนใน 27 รัฐของสหรัฐฯ กำลังถูกตรวจสอบถึงความเป็นไปได้ว่าจะป่วยติดเชื้อ “ฝีดาษลิง” (monkeypox) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยเจ้าหน้าที่กลัวว่า ประชาชนเหล่านี้จะติดเชื้อจากชายชาวรัฐเท็กซัสคนหนึ่ง ซึ่งติดเชื้อร้ายนี้มาจากไนจีเรียในช่วงต้นเดือนนี้
ชายผู้นี้ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นรายแรกที่ป่วยเป็นโรค “ฝีดาษลิง” ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2003 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่อาการทรงตัว แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี (CDC) แถลงว่า มีความวิตกกังวลว่า ผู้โดยสารหลายคนที่ขึ้นเครื่องบินโดยสาร 2 เที่ยวที่ชายคนดังกล่าวใช้บริการด้วย อาจติดเชื้อโรคดังกล่าว โดยเขาเดินทางจากกรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย ไปยังเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ในวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะจับเที่ยวบินต่อไปยังเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นเมืองที่เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ซีดีซี แถลงว่า กำลังทำงานร่วมกับสายการบินเพื่อประเมินแนวโน้มความเสี่ยงต่อคนที่อาจสัมผัสใกล้ชิดกับผู้โดยสารชายคนนี้ แต่ซีดีซีบอกเพิ่มเติมว่า โอกาสที่โรคฝีดาษลิง จะระบาดบนเครื่องบิน อยู่ในระดับต่ำ เพราะผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 อยู่แล้ว
นอกจากนี้ โฆษกของซีดีซี ให้สัมภาษณ์บีบีซีว่า ซีดีซีกำลังประสานงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขของรัฐและท้องถิ่น เพื่อติดตามตัวคนที่อาจติดเชื้อฝีดาษลิงจากกรณีนี้ แต่ก็มีความเสี่ยงต่อสาธารณชนทั่วไปต่ำ และในจำนวน 200 คนที่เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตานี้ ก็ไม่มีใครอยู่ในความเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ "โรคฝีดาษลิง" เป็นโรคที่พบได้ยาก เกิดจากเชื้อไวรัสตระกูลเดียวกับ โรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ (smallpox) แต่รุนแรงน้อยกว่า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลทางภาคกลางและตะวันตกของประเทศในแอฟริกา ใกล้กับป่าฝนเขตร้อน โดยอาการของผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง เบื้องต้นจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ มีอาการบวม ปวดหลัง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีอาการกระสับกระส่ายทั่วไป แต่เมื่อไข้ลดลง อาจเกิดผื่นคันตามมา โดยมักเริ่มที่ใบหน้าแล้วลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วจะพบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า
สำหรับอาการที่มีผื่นขึ้น อาจทำให้รู้สึกคันมาก ก่อนที่จะตกสะเก็ดในที่สุด และหลุดออกมาในเวลาต่อมา และทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ อาการส่วนใหญ่ของไวรัสโรคฝีดาษลิง ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง บางครั้งก็มีลักษณะคล้ายอีสุกอีใส (chickenpox) และหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม บางครั้ง โรคฝีดาษลิงอาจมีอาการรุนแรงมากขึ้น ประมาณ 1 ใน 100 ราย ที่เสียชีวิต
แม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็เคยพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ มาก่อนแล้ว โดยการระบาดในปี 2003 มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน หรือน่าจะเป็นไปได้ 47 ราย และเชื่อมโยงกับหนูที่ถูกนำเข้ามาในประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้ว พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักร 3 คน