"ฟินแลนด์" ครองแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 4 ปีซ้อน "ไทย" รั้งที่ 54
ฟินแลนด์ ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ในรายงาน “World Happiness Report” ประจำปี 2021 ที่มีสหประชาชาติ หรือ UN ให้การสนับสนุน
วันนี้ (20 มี.ค.64) นักเศรษฐศาสตร์ เจฟฟรีย์ เเซคส์ แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดทำรายงาน กล่าวว่าประชากรโลก เเม้จะได้รับผลกระทบจากโคโรนาไวรัสในปีที่เเล้ว แต่ยังสามารถมองไปข้างหน้าและสามารถมีทัศนะคติที่ดีเรื่องปรับตัวให้กลับมามีชีวิตที่มีความสุขได้อีกครั้ง
รายงาน World Happiness Report ภายใต้เครือข่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (U.N Sustainable Development Solutions Network) ทำแบบสอบถามในด้านต่าง ๆ เพื่อจัดทำรายงานรายปีฉบับนี้
สำหรับปัจจัยที่ถูกนำมาพิจารณาวัด "ความสุข" ของประชากรใน 149 ประเทศที่ถูกรวมอยู่ในรายงาน นั้นประกอบด้วย รายได้ต่อหัว จำนวนปีของชีวิตที่ยังถือว่ามีสุขภาพเเข็งเเรง เสรีภาพในการใช้ชีวิต ทัศนะคติเรื่องความคดโกงในสังคม และมุมมองเกี่ยวกับความเป็นผู้ให้ของตนเอง
ในรายงานของปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 9 ของการจัดทำ มีประเทศไม่ถึง 100 ประเทศตอบเเบบสอบถามครบถ้วนเนื่องจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ผู้จัดทำรายงานปีนี้จึงประเมินตัวเลขของประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเช่นเดียวกับปีก่อน ๆ
สำหรับผลการจัดอันดับ ปีนี้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่ "ฟินเเลนด์" ติดอันดับหนึ่ง ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ขณะที่ เดนมาร์ก ได้อันดับ 2 ตามด้วยสวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์และเนเธอร์แลนด์ และยังมีประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มสแกนดิเนเวียเช่นนอร์เวย์และสวีเดน ติด 10 อันดับแรกด้วย
ส่วนนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ในยุโรปเพียงประเทศเดียวที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ด้านสหราชอาณาจักร ร่วงจากอันดับที่ 13 ไปอยู่ที่อันดับ 17
ขณะที่ "ประเทศไทย" ติดอันดับ 54 เท่ากับปีก่อน อย่างไรก็ตามไทยเคยอยู่อันดับ 32 ในรายงานเมื่อ 4 ปีก่อน ส่วนสหรัฐฯติดอันดับ 19 ปีนี้ ขณะที่จีนอยู่ที่อันดับ 84 ในรายงานของปีนี้
โดยรายงานผลการจัดอันดับ "ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก" 149 ประเทศปีนี้ เป็นปีที่สะท้อนผลกระทบจากโควิด-19 ต่อความสุขของประชากรโลกด้วย
รายชื่อ 10 อันดับของประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ประกอบด้วย
อันดับ 1 ฟินแลนด์
อันดับ 2 เดนมาร์ก
อันดับ 3 สวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 4 ไอซ์แลนด์
อันดับ 5 เนเธอร์แลนด์
อันดับ 6 นอร์เวย์
อันดับ 7 สวีเดน
อันดับ 8 ลักเซมเบิร์ก
อันดับ 9 นิวซีแลนด์
อันดับ 10 ออสเตรีย