ไบเดน ลั่นจะไม่บังคับชาวอเมริกันฉีดวัคซีนโควิด-19

ไบเดน ลั่นจะไม่บังคับชาวอเมริกันฉีดวัคซีนโควิด-19

สรุปข่าว

วันนี้ (5ธ.ค.63) ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ แถลงในวันศุกร์ว่า ชาวอเมริกันจะไม่ถูกบังคับให้ต้องรับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เมื่อมีการเริ่มใช้วัคซีนในสหรัฐ ซึ่งถ้อยแถลงของนายไบเดน มีขึ้น

ขณะที่ศูนย์ควบคุมโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ เรียกร้องเป็นครั้งแรกให้ประชาชน “สวมหน้ากากอนามัยอย่างกว้างขวาง” ในทุกที่นอกบ้าน โดยซีดีซี บอกว่า สหรัฐ “เข้าสู่ระยะการระบาดของไวรัสในระดับสูง” ซึ่งในวันศุกร์วันเดียว มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2,861 ราย

จนถึงวันนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว มากกว่า 14 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 278,000 ราย 

นายไบเดน ซึ่งมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ กล่าวด้วยว่า เขาคาดว่า จะลดขนาดของพิธีสาบานตนลง โดยไม่ให้มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน เพราะความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัส

ก่อนหน้านี้ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ  ประกาศย้ำว่า สิ่งแรกที่ตั้งใจจะทำหลังการเข้ารับตำแหน่งผู้นำอย่างเป็นทางการ คือการร้องขอให้ประชาชนชาวอเมริกันร่วมกันสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 100 วันติดต่อกัน โดยไม่มีการบังคับใด ๆ เพื่อหวังช่วยหยุดการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยนายไบเดน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่า ในวันปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งนั้น ตนจะประกาศขอให้ประชาชนสวมหน้ากาก และหากทุกคนร่วมมือกันทำติดต่อกันได้ถึง 100 วัน ตนเชื่อว่าอัตราการติดเชื้อในประเทศจะลดลงอย่างชัดเจน

ทั้งไฟเซอร์ บริษัทยาชั้นนำของสหรัฐ ซึ่งระบุว่าวัคซีนที่ทางบริษัทพัฒนานั้น มีประสิทธิภาพต้านไวรัสโควิดได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ในการทดลองทางคลินิก และโมเดอร์นา บริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งบอกว่า วัคซีนของตนมีประสิทธิภาพ 94 เปอร์เซ็นต์ ได้ยื่นขออนุญาตต่อสำนักงานอาหารและยา หรือเอฟดีเอ ของสหรัฐ เพื่อแจกจ่ายวัคซีนในสหรัฐแล้ว

ส่วนเช้าวันศุกร์ รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ แถลงระหว่างเยือนสำนักงานใหญ่ของซีดีซี ในเมืองแอตแลนตา ว่า การอนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 อาจเกิดขึ้นภายในประมาณ 10 วันข้างหน้า


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com 
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live 
twitter : TNNONLINE 
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE 
Instagram : TNN_ONLINE 
TIKTOK : @TNNONLINE

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ