ไบเดนประกาศคว่ำบาตรรัสเซียด้าน "พลังงาน" รอบใหม่
สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ประกาศคว่ำบาตรด้านพลังงานแก่รัสเซียรอบใหม่ มุ่งเป้าไปที่บริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย 2 แห่ง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบใหม่แก่รัสเซีย เมื่อวานนี้ (10 มกราคม) โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ก๊าซพรอม เนฟต์ (Gazprom Neft) และบริษัท ซูร์กุตเนฟเตก๊าซ (Surgutneftegas) นอกจากนี้ ยังรวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันอีก 183 ลำ ซึ่งถือเป็น 1 ในมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานครั้งใหญ่ที่สุดต่อรัสเซีย ส่วนเป้าหมายก็เพื่อตัดแหล่งเงินทุนสำคัญของรัสเซียที่ใช้สนับสนุนการสู้รบในเหตุขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังคว่ำบาตรต่อบริษัท เอ็นไอเอส (NIS) ผู้ให้บริการด้านพลังงานรายใหญ่ของเซอร์เบียด้วย โดยให้เหตุผลว่ามีความเกี่ยวข้องกับ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย
ขณะที่สหราชอาณาจักร ก็ประกาศคว่ำบาตร 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย เช่นเดียวกันกับสหรัฐฯ จากเหตุผลเรื่องเดียวกัน คือต้องการหยุดแหล่งเงินทุนสำคัญที่ใช้สนับสนุนทางทหารแก่กองทัพรัสเซียที่กำลังสู้รบกับยูเครน
ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังยูเครน ก็ออกมาประกาศในช่วงเวลาเดียวกันว่า ยูเครนได้รับเงินสนับสนุน 3,000 ล้านยูโร หรือราว 1 แสน 6 พันล้านบาท จากสหภาพยุโรป หรือ อียู ซึ่งนำมาจากสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดเอาไว้จากมาตรการคว่ำบาตรก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ อียู ยังมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ มาใช้สนับสนุนเป็นกู้แก่ยูเครนมูลค่า 18,100 ล้านยูโร หรือประมาณ 6 แสน 4 หมื่น 3 พันล้านบาท ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อให้ยูเครนนำเงินเหล่านี้ไปใช้สนับสนุนทางทหาร รวมถึงเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และนำไปใช้ฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ก็ออกมาประณามการกระทำของชาติตะวันตก เกี่ยวกับเรื่องอายัดสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซีย โดยเรียกการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการโจรกรรม
ข่าวแนะนำ