วันเด็กมาจากไหน ? แม้หลายประเทศจะฉลองไม่ตรงกันแต่กลับมีจุดประสงค์เดียวกันคือการฉลองให้เด็กทุกคนเติบโตขึ้นมาอย่างดีในโลกที่อาจไม่ได้ใจดีกับทุกคน
จุดเริ่มต้นของวันเด็กเริ่มมาจากขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องเด็กในปี 1940 หรือในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เรียกร้องให้เห็นความสำคัญของเด็กที่เสียชีวิตหรือได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงคราม จนกระทั่งแนวคิดนี้ถูกสานต่อในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในปี 1954 ที่ได้กำหนดให้วันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น “วันเด็กสากล"
แต่สหประชาชาติยังได้แนะนำให้ทุกประเทศทั่วโลกควรจัดสรรวันที่เหมาะสมเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเด็ก ๆ เพราะวันเด็กเป็นสัญลักษณ์ของภราดรภาพและความเข้าใจ อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมสวัสดิการของเด็กในแต่ละประเทศที่ต้องเผชิญปัญหาไม่เหมือนกัน ทั้งปัญหาด้านสงคราม, ปัญหาความขาดแคลน, ปัญหาจากการถูกคุกคามทางเพศ หรือแม้แต่ปัญหาจากการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน จึงทำให้วันเด็กในแต่ละประเทศมีวิธีการเฉลิมฉลองที่ต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมของตน
อาทิ รัสเซียกำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนเป็นวันเด็ก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาของวันหยุดยาวฤดูร้อนแสนอบอุ่นที่เด็ก ๆ จะสามารถออกมาทำกิจกรรมภายนอกได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ในขณะที่ชิลีเ ลือกฉลองวันเด็ก ปีละ 2 ครั้ง คือในวันพุธแรกของเดือนตุลาคมและวันอาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม
แต่ที่น่าสนใจคือที่ออสเตรเลีย เนื่องจากไม่มีการกำหนดวันเด็กที่ชัดเจนเหมือนประเทศอื่น ๆ เนื่องจากรัฐบาลออสเตรเลียมองว่าการเฉลิมฉลองหรือโอกาสในการพูดถึงปัญหาและส่งเสริมสวัสดิภาพของเด็ก ๆ สามารถทำได้ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องทำแค่ในโอกาสพิเศษที่ตั้งขึ้นอย่างวันเด็ก แต่เพื่อยกระดับให้มีความพิเศษขึ้น ออสเตรเลียตัดสินใจจะฉลองวันเด็กยาว 1 สัปดาห์ ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม
ส่วนที่ญี่ปุ่น มีการฉลองวันเด็กถึงปีละ 3 ครั้ง แบ่งตามเพศคือวันเด็กผู้หญิง 3 มีนาคม, วันเด็กผู้ชาย 5 พฤษภาคม และ วันชิจิโกซัง (วันเจ็ด-ห้า-สาม) 15 พฤศจิกายน ฉลองให้เด็กทุกเพศและทุกวัยที่เป็นธรรมเนียมมากว่าเกือบ 3 ศตวรรษ
แม้ว่าวันเด็กของแต่ละประเทศจะไม่ตรงกัน หรือ มีวิธีเฉลิมฉลองต่างกันแต่สิ่งที่มีร่วมกันคือการเฉลิมฉลองเพื่อเด็ก ๆ ที่เป็นความหวังของทุกประเทศให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต