ไม่มีปาฏิหาริย์ เหตุเครื่องบินเจจูแอร์ไถลรันเวย์ เสียชีวิต 179 ราย รอดชีวิต 2 คน

รายงานจากสำนักงานดับเพลิงจังหวัดช็อนนัมเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) มีเพียงลูกเรือ 2 คนคือชาย 1 คนและหญิง 1 คนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าได้พบศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 179 คนแล้ว โดยการค้นหาศพทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 21.03 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เที่ยวบินดังกล่าวประกอบด้วยผู้โดยสารทั้งหมด 175 คนและลูกเรือ 6 คน โดยในจำนวนผู้โดยสารมีทั้งชาย 82 คนและหญิง 93 คน รวมถึงเด็กชายวัย 3 ปีเป็นผู้โดยสารที่อายุน้อยที่สุด และชายวัย 78 ปีที่เป็นผู้โดยสารที่อายุมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีผู้โดยสารชาวไทย 2 คน ซึ่งเป็นหญิงในช่วงอายุ 20 และ 40 ปี

กลุ่มอายุที่ใหญ่ที่สุดในเที่ยวบินนี้คือผู้โดยสารที่มีอายุในช่วง 50 ปี โดยมี 40 คน ตามด้วยผู้โดยสารในช่วงอายุ 60 ปี จำนวน 39 คน, อายุ 40 ปี 32 คน, อายุ 70 ปี 24 คน, อายุ 30 ปี 16 คน, อายุ 20 ปี 10 คน, วัยรุ่น 9 คน และเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี 5 คน

เจ้าหน้าที่ได้ให้คำมั่นที่จะประสานงานกับครอบครัวผู้สูญเสียในการจัดการงานศพตามความต้องการของแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม เกิดการปะทะคารมระหว่างเจ้าหน้าที่และครอบครัวผู้สูญเสีย เมื่อครอบครัวต้องการที่จะระบุชื่อผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะเปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตหลังจากการพิสูจน์อัตลักษณ์ผ่านการตรวจสอบลายนิ้วมือ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน

ท่าอากาศยานดังกล่าวเต็มไปด้วยครอบครัวผู้สูญเสียที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ขณะที่พวกเขารอคอยอย่างท่วมท้นด้วยความโศกเศร้า

ลำตัวของเครื่องบินถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิงในการตกครั้งนี้ ทำให้การระบุศพของผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องยากยิ่ง ทีมกู้ภัยยังคงดำเนินการค้นหาซากศพของผู้โดยสารที่หายไป ขณะเดียวกันก็มีการจัดตั้งเตาเผาศพชั่วคราวเพื่อเก็บศพที่ถูกนำมาจากที่เกิดเหตุ

กระทรวงคมนาคมแจ้งว่า รันเวย์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอันจะถูกปิดให้บริการจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2025 ซึ่งนับเป็นเวลาเพียงไม่ถึงเดือนหลังจากที่สายการบินเจจูแอร์กลับมาดำเนินการบินระหว่างประเทศที่สนามบินแห่งนี้อีกครั้ง หลังจากที่มีการระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ เที่ยวบิน 7C2216 ที่ประสบอุบัติเหตุนี้เดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และมูอันสัปดาห์ละ 4 ครั้ง