แจ็กพอตเมกกะ มิลเลียนส์ พุ่งถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์และตั๋วใบที่ถูกมีคนซื้อไปแล้ว
ใครจะเป็นมหาเศรษฐีคนต่อไป รางวัลแจ็กพอตเมกกะ มิลเลียนส์ พุ่งถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์ และตั๋วที่ตัวเลขตรงถูกซื้อไปแล้วที่รัฐแคลิฟอร์เนีย
เงินรางวัลวัลแจ็กพอตล็อตเตอรี “เมกกะ มิลเลียนส์” (Mega Millions) ของสหรัฐฯ สะสมถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) แล้วเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ธันวาคม) ซึ่งเป็นเงินรางวัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นลำดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยตัวเลขจากการหมุนรางวังวัลเมื่อคืนวันศุกร์ประกอบด้วย 3, 7, 37, 49, 55 และตัวเลขพิเศษ หรือ เมกกะ บอล ในครั้งนี้คือ 6 ซึ่งตั๋วใบที่มีเลขตรงกับที่ประกาศออกมาทั้งหมด “ถูกซื้อไปแล้ว” จากร้านค้าในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งที่เมืองคอตตอนวูดในรัฐแคลอฟอร์เนีย แต่ยังไม่มีผู้โชคดีคนไหนออกมาอ้างสิทธิ์ว่าสามารถครอบครองเงินรางวัลมหาศาลนี้ ซึ่งครั้งล่าสุดที่แจ็กพอตแตกคือเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วยจำนวนเงิน 810 ดอลลาร์สหรัฐ
ผู้อำนวยการของ เมกกะ มิลเลียนส์ กล่าวว่า ในช่วงวันคริสต์มาสอีฟและคริสต์มาสที่ผ่านมาหลายคนน่าจะได้รับตั๋วเสี่ยงโชคของเมกกะ มิลเลียนส์ เป็นของขวัญคริสต์มาสแต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าของขวัญคริสต์มาสธรรมดาจะกลายเป็นเงินรางวัลมหาศาลหากคุณคือผู้โชคดีและไม่ต้องแปลกใจหากต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะมีผู้โชคดีออกมาอ้างสิทธิ์ว่าเป็นผู้ถูกล็อตเตอรี
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลแจ็กพอตแตกของเมกกะ มิลเลียนส์ เป็นผู้อยู่อาศัยในรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ได้รับเงินรางวัลไป 1.128 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เขาไปซื้อตั๋วเสี่ยงโชคนี้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ShopRite ในเมือง เนปจูน ทาวน์ชิป ของรัฐนิวเจอร์ซีย์
สำหรับเงินรางวัลแจ็กพอตที่ทำสถิติมากที่สุดของเมกกะ มิลเลียนส์ ในขณะนี้คือ 1.602 พันล้านเหรียญสหรัฐและมีผู้โชคดีที่จากรัฐฟลอริดาได้รับเงินรางวัลนี้ไปครองเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2023 แต่ยังถือเป็นจำนวนเงินที่น้อยกว่าล็อตเตอรีอีกเจ้าอย่าง “พาวเวอร์ บอล” ที่ในขณะนี้มีสถิติเงินรางวัลสูงสุดที่ 2.040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ตั๋วเสี่ยงโชคของเมกกะ มิลเลียนส์ มีจำหน่ายใน 45 รัฐทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐวอชิงตันไปจนถึง หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐฯ แต่ละตั๋วจะมีราคาเพียง 2 ดอลลาร์ แต่ตั้งแต่เมษายนปีหน้า (2025) จะขึ้นราคาเป็นใบละ 5 ดอลลาร์ เมื่อมีผู้ถูกรางวัลจะสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินรางวัลแบ่งจ่ายเป็นงวดตลอด 30 ปี หรือจะเลือกรับเงินจำนวนเต็มในครั้งเดียวหลังหักภาษีที่ผู้โชคดีส่วนใหญ่มักจะเลือกวิธีนี้ ซึ่งหากคิดจากจำนวนเงินแจ็กพอตครั้งนี้ผู้โชคดีจะได้รับไปทั้งสิ้น 549.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 หมื่น 8 พันล้านบาท
ข่าวแนะนำ