ชาวญี่ปุ่นกังวลชีวิตทุบสถิติ 78.2% สูงที่สุดตั้งแต่มีการสำรวจมา

ผลสำรวจจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) ในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พบว่า 78.2% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกวิตกกังวลหรือกังวลใจ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้สึกของประชาชนในสำมะโนประชากรประจำปีตั้งแต่ปี 1981

ผลสำรวจดังกล่าวยังพบว่า 28.1% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า มาตรฐานการครองชีพของตนเองอยู่ในระดับกลางและล่าง เมื่อเทียบกับประชาชนทั่วไป ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 35 ปี ขณะที่ 46.7% ระบุว่ามีมาตรฐานชีวิตอยู่ในระดับกลาง 14.2% ระดับกลางและบน 8.7% ระดับต่ำ และ 1.7% ระดับสูง

ด้านปัญหาที่ประชาชนกังวลมากที่สุดคือ สุขภาพของตนเอง โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 63.8% ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ถูกหยิบยกขึ้นมา ตามด้วยแผนการชีวิตหลังเกษียณที่62.8% และแนวโน้มรายได้และทรัพย์สินในอนาคตที่ 58%

ขณะเดียวกัน เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่พอใจหรือพอใจเล็กน้อยกับรายได้ของตนเพิ่มขึ้นเป็น 34.9% เพิ่มขึ้น 3.5% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด ขณะที่ 64.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาค่อนข้างไม่พอใจหรือไม่พอใจเลย ซึ่งลดลง 3.5% 

บางคนในรัฐบาลเชื่อว่าผลลัพธ์ดังกล่าวสะท้อนถึงผลบวกจากการปรับขึ้นเงินเดือน แต่เมื่อถามว่าในอนาคตรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับมาตรการใดมากที่สุด ส่วนใหญ่ 66.1% ระบุว่าเป็นการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบจากเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลลัพธ์เดียวกันกับปีที่แล้ว

การสำรวจนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 1957 และครั้งล่าสุดถือเป็นการสำรวจครั้งที่ 67 ดำเนินการทางไปรษณีย์ระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม-15 กันยายน โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามเป็นพลเมืองญี่ปุ่นอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 3,000 คนทั่วประเทศ และได้รับคำตอบที่ถูกต้องจาก 61% ของกลุ่มตัวอย่าง

เนื่องจากการสำรวจในปีนี้ใช้วิธีการสำรวจทางไปรษณีย์ ซึ่งแตกต่างจากการสำรวจในอดีตที่ทำแบบสัมภาษณ์ในบุคคล การเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างผลสำรวจในปีนี้กับผลสำรวจในอดีตจึงไม่สามารถทำได้ง่ายนัก