หมอกควันปกคลุมเมื่อหลวงบอสเนียหนา
กรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนีย เผชิญปัญหาหมอกควันปกคลุม ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเห็น และกลายเป็นเมืองที่ติดอันดับคุณภาพอากาศเลวร้าย
หมอกควันหนาปกคลุมกรุงซาราเยโว เมืองหลวงบอสเนียในสัปดาห์นี้ ทำให้ทัศนวิสัยในตอนกลางวันลดลงเหลือเพียงไม่กี่สิบเมตร และบีบให้ประชาชนต้องอยู่แต่ภายในอาคาร เนื่องจากระดับมลพิษพุ่งสูงขึ้นจนถึงระดับอันตราย
มีเพียงกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ซึ่งมีประชากรมากกว่าซาราเยโวถึง 100 เท่าเท่านั้นที่มีคุณภาพอากาศแย่กว่าในวันพุธที่ผ่านมา ตามรายงานของ IQAir ซึ่งติดตามระดับมลพิษในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก
จากการจัดอันดับดังกล่าว กรุงซาราเยโวเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในยุโรป ขณะที่กรุงสโกเปีย เมืองหลวงมาซิโดเนียเหนือ รั้งอันดับรองลงมา โดยอยู่ในอันดับที่ 10
ด้วยประชากรราว 315,000 คน กรุงซาราเยโวแทบไม่มีอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษเลย เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้ถูกทำลายไประหว่างเกิดสงครามบอสเนียเมื่อทศวรรษ 1990 แต่เนื่องจาก กรุงซาราเยโว ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและเนินเขา จึงทำให้เมืองนี้ต้องประสบกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่าอุณหภูมิผกผัน (temperature inversion) ซึ่งทำให้อากาศเย็นลงและมลพิษจากยานพาหนะและเชื้อเพลิงฟอสซิลลอยตัวสูงขึ้นใกล้พื้นดิน และเมื่อรวมกับหมอก ปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายวัน
ซานจิน ฮาคาโลวิช กล่าวว่า “เขาแทบจะรับมือกับสภาพอากาศแบบนี้ไม่ได้เลย มันหายใจได้ลำบากมาก” และเสริมว่าเขาเป็นห่วงว่า สมาชิกในครอบครัวของเขาจะรับมืออย่างไร
ส่วนมูริส สปาฮิซ ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพอากาศ กล่าวว่า สถานการณ์จะดีขึ้นก็ต่อเมื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและแก้ปัญหาความแออัดของการจราจร
เมื่อฤดูหนาวที่แล้ว มลพิษรุนแรง รัฐบาลได้ให้คำมั่นว่า จะห้ามใช้รถยนต์รุ่นเก่า และระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและการชุมนุมกลางแจ้งเมื่อคุณภาพอากาศแย่ลง แต่มาตรการเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติแต่อย่างใด
รัฐบาลในเขตปกครองของกรุงซาราเยโว ไม่ได้ตอบรับคำขอให้แสดงความคิดเห็น โดยก่อนหน้านี้ได้กล่าวว่า กำลังลงทุนในระบบขนส่งสาธารณะและประสิทธิภาพด้านพลังงาน
ข่าวแนะนำ