รัสเซียยืนยัน ผู้นำซีเรียลงจากตำแหน่งแล้ว
รัสเซียยืนยันว่า ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียได้ประกาศลงจากตำแหน่งและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว
เว็บไซต์ไฟลท์เรดาร์ ที่ติดตามเที่ยวบินขึ้นลงจากสนามบินต่าง ๆ ทั่วโลก เผยให้เห็นเที่ยวบินหนึ่งเดินทางออกจากกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ช่วงเช้าของวันนี้ (8 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มกบฏสามารถบุกเข้ายึดกรุงดามัสกัสได้ เชื่อว่าน่าจะเป็นเที่ยวบินที่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย และครอบครัวรวมถึงคณะผู้ติดตาม เดินทางออกจากกรุงดามัสกัสไปยังสถานที่ไม่เปิดเผย โดยเครื่องบินมุ่งหน้าไปทางภูมิภาคชายฝั่งของซีเรีย ซึ่งถือเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มผู้สนับสนุน อัล-อัสซาด ก่อนที่เครื่องบินจะเลี้ยวกลับและบินไปในทิศทางตรงกันข้ามหลายนาที ก่อนที่จะหายไปจากจอเรดาร์
ล่าสุด กระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า ประธานาธิบดี อัล-อัสซาด ได้ประกาศลงจากตำแหน่งผู้นำซีเรียและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว หลังมีการเจรจากับตัวแทนฝ่ายติดอาวุธกลุ่มต่าง ๆ ที่เกิดความขัดแย้งในประเทศ และได้เสนอขั้นตอนในการเปลี่ยนผ่านการบริหารประเทศอย่างสันติ กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยืนยันว่า รัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวกับข้องกับการเจรจาดังกล่าวในซีเรีย แต่ได้ติดต่อกับกลุ่มต่อต้านต่าง ๆ ของซีเรียแล้ว และบอกว่าฐานทัพรัสเซียในซีเรียอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด แต่ยังไม่พบความเสี่ยงว่าจะตกเป็นเป้าโจมตี
ขณะที่ชาวซีเรียทั้งในเมืองอเลปโป เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ที่ถูกกลุ่มกบฏบุกเข้ายึดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงชาวซีเรียในต่างประเทศ ทั้งในเลบานอนและตุรกี ต่างออกมารวมตัวเฉลิมฉลองเพื่อแสดงความยินดี ที่กลุ่มกบฏในซีเรียสามารถเข้ายึดและปลดแอกกรุงดามัสกัส โค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ปกครองซีเรียมานาน 24 ปีได้แล้วในวันนี้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของซีเรียที่เผชิญสงครามกลางเมืองมายาวนานถึง 13 ปี จนประเทศกลายเป็นเศษซาก มีผู้เสียชีวิต ไร้ที่อยู่อาศัย และต้องลี้ภัยไปต่างแดนหลายล้านคน เฉพาะในตุรกี มีชาวซีเรียอาศัยอยู่กว่า 3 ล้านคน และส่วนใหญ่บอกว่าพร้อมกลับบ้านเกิด หากประธานาธิบดี อัล-อัสซาด ถูกโค่นจากอำนาจ
อย่างไรก็ตาม กองทัพซีเรียยังคงอ้างว่า กำลังสู้รบกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านในหลายเมือง ทั้งในเมืองฮอมส์ ฮามา และในเขตชนบทของเมืองเดอราอยู่ในขณะนี้
ด้านทหารกองทัพอิสราเอลยังคงประจำการอยู่ในพื้นที่เส้นแบ่งเขตหยุดยิงระหว่างซีเรียกับที่ราบสูงโกลันซึ่งอยู่ในความยึดครองของอิสราเอล ท่ามกลางสถานการณ์ในซีเรียที่กลุ่มกบฏสามารถบุกเข้าเมืองกรุงดามัสกัส และเมืองสำคัญอื่น ๆ ในซีเรียได้ในช่วงเวลาไม่กี่วัน กองทัพอิสราเอลเผยว่า ได้ส่งกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่เส้นแบ่งเขตกันชนดังกล่าวดังกล่าว ซึ่งอยู่ในความดูแลของสหประชาชาติ และเพิ่งกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตามจุดตรวจต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อรับมือสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงล่าสุดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า อิสราเอลบดขยี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านในเลบานอน น่าจะยินดีกับการที่รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดี อัล-อัสซาด ถูกโค่นอำนาจ เพราะเขาถือเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรเหนียวแน่นของอิหร่าน แต่การที่กลุ่มกบฎมุสลิมเข้ายึดครองซีเรีย ก็อาจทำให้อิสราเอลต้องวิตกกังวลได้เช่นกัน
ข่าวแนะนำ