สหภาพยุโรปย้ำทำตาม ICC กรณีออกหมายจับผู้นำอิสราเอล-ฮามาส
หัวหน้านโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรปย้ำ สหภาพยุโรปซึ่งล้วนเป็นสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ ต้องปฏิบัติตามหมายจับผู้นำอิสราเอลและฮามาสของศาล โดยไม่มีทางเลือกอื่น แต่หลายประเทศยังไม่ได้แสดงจุดยืน ว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่ แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกเกี่ยวกับเรื่องนี้
โจเซพ บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป แถลงเมื่อวานนี้ (23 พฤศจิกายน) ว่า รัฐบาลประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ไม่สามารถเลือกได้ว่า จะปฏิบัติตามหมายจับผู้นำอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ที่ออกโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซีหรือไม่
ทั้งนี้ มีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันระหว่างประเทศสมาชิกอียูต่อหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู, โยอาฟ กัลแลนต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล และผู้นำของกลุ่มฮามาส ที่ออกโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ ในข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แต่อิสราเอลประณามการออกหมายจับนักการเมืองของตนว่า เป็นการต่อต้านชาวยิว
สมาชิกอียูทุกประเทศต่างลงนามในสนธิสัญญาก่อตั้งไอซีซี ซึ่งเรียกว่า ธรรมนูญกรุงโรม บอร์เรลล์ ซึ่งจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งหัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียูในช่วงสิ้นเดือนนี้ กล่าวว่า ประเทศที่ลงนามในอนุสัญญากรุงโรม มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาล ไม่มีทางเลือกอื่น”
เขากล่าวกับรอยเตอร์ว่า พันธกรณีดังกล่าวยังมีผลผูกพันต่อประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปด้วย พร้อมย้ำว่า มันจะตลกมากหากประเทศที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ มีพันธกรณีซึ่งสมาชิกปัจจุบันไม่ปฏิบัติตาม”
หมายจับดังกล่าว ได้รับการสนองตอบแบบอ่อนปวกเปียกจากสมาชิกอียู ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความแตกแยกเกี่ยวกับสงครามในฉนวนกาซา ซึ่งเกิดจากการบุกโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว
ฮังการี คือหนึ่งในประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามคำร้องของศาลอาญาระหว่างประเทศ ด้วยการยื่นคำเชิญให้เนทันยาฮูเดินทางเยือนฮังการี ในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศผู้มีอิทธิพลในสหภาพยุโรป ยังไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า พวกเขาจะดำเนินการตามคำร้องดังกล่าวหรือไม่ หากจำเป็น
ข่าวแนะนำ