เกาหลีใต้รับไม้ต่อเจ้าภาพเอเปคปีหน้า

เมื่อวานนี้ (15 พฤศจิกายน) ประธานาธิบดียูน ซอค-ยอลของเกาหลีใต้ กล่าวในถ้อยแถลงรับไม้ต่อเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีหน้า ยอมรับว่า หนักใจปัญหา "การกีดกันทางการค้า" ที่กำลังรอการประชุมสุดยอดเอเปคในปีหน้า ซึ่งเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ที่จะต้องแบกภาระหนักไว้บนบ่ามากกว่าที่เคยเป็นมา

ขณะเดียวกันผู้นำเกาหลีใต้ยังได้หารือนอกรอบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ไบเดนจะพ้นตำแหน่งในต้นปีหน้าร่วมกับผู้นำญี่ปุ่น ด้านไบเดนเผยว่าเขาพยายามสร้างความคืบหน้าทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น  ซึ่งเป็น 2 ประเทศพันธมิตรสนิทที่สุดของสหรัฐฯ ในเอเชีย ก่อนหน้าที่รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้ว่าที่ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ท่ามกลางความหวั่นกลัวกันว่าทรัมป์จะเปลี่ยนนโยบายสหรัฐฯ ให้แข็งกร้าวมากขึ้นต่อประเทศพันธมิตรทั่วโลกรวมถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่นด้วย

ทั้งนี้ การสามารถทำให้เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นยอมทำงานร่วมกันได้ เป็นหนึ่งในผลงานความสำเร็จทางการทูตสำคัญของรัฐบาลไบเดนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หลังจากในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นไม่ลงรอยกันเนื่องจากความขัดแย้งยาวนานในประวัติศาสตร์ ที่เกิดจากญี่ปุ่นเคยยึดเกาหลีใต้เป็นอาณานิคมระหว่างปี 1910-1945 โดยไบเดนให้ความสำคัญกับการกระชับสัมพันธ์ใกล้ชิด 3 ประเทศมาก ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการต้านอิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้

การพบกันของ 3 ผู้นำนอกรอบเอเปคครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่มีเกาหลีเหนือเข้ามาเกี่ยว โดยเกาหลีเหนือถูกกล่าวหาว่า ส่งทหารไปยังรัสเซียเพื่อสนับสนุนรัสเซียทำสงครามกับยูเครน ขณะที่เกาหลีเหนือยังคงพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ต่อเนื่อง เพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชีย