พิษสงคราม! ทำให้มีผู้พลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 1.2 ล้านคนในเลบานอน

เฮกเตอร์ ฮัจจาร์ รัฐมนตรีกิจการสังคมของเลบานอน แถลงว่า ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ทำให้มีผู้พลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 1 ล้าน 2 แสนคนในเลบานอน ซึ่งนำไปสู่หายนะด้านมนุษยธรรม โดยในการให้สัมภาษณ์เครือข่ายโทรทัศน์ China Global Television Network หรือซีจีทีเอ็น (CGTN) ของจีนในกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอน ฮัจจาร์ ระบุว่า ผู้คนที่พลัดถิ่นไม่ใช่เฉพาะชาวเลบานอนเท่านั้น แต่ยังมีชาวต่างชาติ ทั้ง ชาวซีเรีย, ชาวปาเลสไตน์ และคนสัญชาติต่าง ๆ ที่ทำงานในเลบานอน ทำให้ผู้พลัดถิ่น ต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ โดยกระทรวงกิจการสังคมของเลบานอน กำลังเร่งแก้ไขวิกฤตผู้พลัดถิ่น โดยเฉพาะการหาที่พักพิงให้กับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม การหาที่พักพิงถือเป็นปัญหาใหญ่ จนถึงตอนนี้ เลบานอน สามารถรองรับผู้พลัดถิ่นได้เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ส่วนที่เหลือกระจายไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ, บ้านเช่า หรือพักอยู่กับเพื่อน โดยมีที่พัก 1,060 แห่ง และส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่ไม่มีอุปกรณ์อะไร และไม่ใช่สถานที่ดีสำหรับการนอน ถือเป็นหายนะ และหากสงครามยังยืดเยื้อต่อไป สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสภาพมนุษยธรรมที่เสื่อมทราม ฮัจจาร์ เรียกร้องให้สหประชาชาติ หรือยูเอ็น และประชาคมระหว่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่เลบานอน 

ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเลบานอนอย่างหนักตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังมีความขัดแย้งกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลว่าสงครามอาจขยายวงกว้าง 

เมื่อวานนี้ อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีพื้นที่ชานเมืองตอนใต้ของกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอน อย่างน้อย 4 ครั้ง หลังจากโฆษกกองทัพอิสราเอลประกาศเตือนอพยพในพื้นที่ 2 แห่งผ่านทาง แพลตฟอร์ม X โดยคำสั่งอพยพของอิสราเอล ระบุว่า คำเตือนเร่งด่วนสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชานเมืองตอนใต้ โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในอาคารที่ทำเครื่องหมายเป็นสีแดงตามที่แสดงบนแผนที่ และอาคารใกล้เคียงในเขตไฮรค์ (Hreik)

คำสั่งดังกล่าว ยังด้วยว่า อาคารเหล่านี้อยู่ใกล้กับสถานที่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และแนะนำให้ผู้คนอยู่ห่างจากอาคารดังกล่าวอย่างน้อย 500 เมตร ด้าน รอยเตอร์ได้เผยแพร่คลิปภาพกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากพื้นที่ชานเมืองตอนใต้ของกรุงเบรุตด้วย หลังเกิดระเบิดดังขึ้นในrพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลมาจากการโจมตีของอิสราเอล 

ขณะเดียวกัน ก็มีอาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย  หลังจากฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดโจมตี โดยในเมืองคิริอัต อาตา มีการปิดล้อมอาคารและรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายหลังจากการโจมตีด้วยจรวด 

ส่วนในชุมชนชาวยิว ไอน์ ฮามิฟราตซ์ ใกล้เมืองอาเกร มีอาคารหลังหนึ่งและรถยนต์ได้รับความเสียหาย 

กองทัพอิสราเอล แถลงว่า ฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงจรวดหลายสิบลูก และโดรนหลายลำ โจมตีพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ ซึ่งมีโดรนลำหนึ่งพุ่งเป้าโจมตีโดยตรงบ้านพักในวันหยุดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลด้วย

การยิงจรวดจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน มีขึ้นขณะที่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในฉนวนกาซา ระบุว่า การโจมตีของอิสราเอลเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตทั่วกาซามากกว่า 30 ราย 

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือเมืองไฮฟา เมืองชายฝั่งของอิสราเอล และเสียงเตือนภัยดังขึ้นทั่วเมือง เพื่อเตือนการโจมตีด้วยจรวดจากเลบานอน โดยกองทัพอิสราเอล ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า มีจรวด 55 ลูกถูกยิงจากเลบานอน ตั้งแต่ตอนเช้า พุ่งตรงเมืองไฮฟา และหลายเมืองในภาคเหนือของอิสราเอล ซึ่งบางลูกถูกยิงสกัดจากระบบป้องกันภัยทางอากาศ ไอรอนโดม และบางลูกก็ตกในพื้นที่โล่งว่างเปล่า 

จำนวนผู้เสียชีวิตในเลบานอนจากการโจมตีของอิสราเอลตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว เพิ่มเป็น 2,418 ราย และบาดเจ็บ 11,336 ราย  ซึ่งรายงานนี้ เปิดเผยโดยนาสเซอร์ ยาสซิน รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของเลบานอน พบว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม ปีที่แล้ว เลบานอนถูกโจมตีจากอิสราเอลแล้ว 10,333 ครั้ง 

รายงานยังระบุด้วยว่า นับจากวันที่ 23 กันยายน จนถึง 18 ตุลาคมปีนี้ มีชาวซีเรีย 335,948 รายและชาวเลบานอน 135,181 ราย อพยพข้ามจุดผ่านแดนเข้าสู่ซีเรีย 

ด้าน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล โพสต์ข้อความลงใน X ว่า ความพยายามของฮิซบอลเลาะห์ ที่จะลอบสังหารเขาและภริยาเมื่อวานนี้ ถือเป็น “ความผิดพลาดมหันต์” หลังโดรนลำหนึ่งถูกส่งมาจากเลบานอนโจมตีบ้านพักของเขา 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดที่โจมตีอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีดังกล่าว