ไบเดนอุบเงียบแม้รู้แผนอิสราเอลจะถล่มอิหร่าน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เปิดเผยวานนี้ (18 ตุลาคม) ว่าเขารู้แล้วว่าอิสราเอลจะโจมตีอิหร่านเมื่อใดและอย่างไรแต่ขอปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้ ไบเดนกล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่สนามบินในกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนีหลังเสร็จสิ้นการเยือนและหารือกับผู้นำยุโรป

โดยนายไบเดนยังระบุด้วยว่าโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะเดินหน้าให้เกิดการหยุดยิงทั้งในฉนวนกาซาและเลบานอน “ยังมีอยู่” แต่จะทำได้ยากมากขึ้น โดยเฉพาะความพยายามให้เกิดการหยุดยิงในฉนวนกาซาจะยากยิ่งกว่าในเลบานอนที่อิสราเอลกำลังปะทะกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

ขณะที่ บรรดาทูตอาหรับในยูเอ็นแถลงร่วมกัน เตือนเกิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซาเหนือที่ร้ายแรงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ถ้าหากอิสราเอลประกาศให้กาซาเหนือเป็น “เขตทหาร” โดยริยาด มันซูร์ ผู้สังเกตการณ์ถาวรของปาเลสไตน์ประจำยูเอ็น แถลงว่า การประกาศเขตทหาร หมายความว่า อิสราเอลจะถือว่าทุกคนที่ยังอยู่ในกาซาเหนือ คือเป้าหมายโจมตีทางทหารได้ทั้งหมด หวั่นจะทำให้ชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ในกาซาเหนือจะถูกกำจัดในจำนวนที่มากเสียยิ่งกว่ายอดชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตในสงครามกาซาตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตสะสมในกาซาตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ล่าสุดอยู่ที่ 42,438 คน

ทั้งนี้ หากอิสราเอลอาจประกาศให้ตอนเหนือของฉนวนกาซาเป็น "เขตทหาร" จะเป็นการปิดผนึกพื้นที่ทั้งกาซาบริเวณตอนเหนือทั้งหมด โดยข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ขณะนี้กองกำลังอิสราเอลได้เริ่มตัดขาด 3 เมืองบริเวณกาซาเหนือจากเมืองกาซา ซิตี แล้ว อาทิ เมืองจาบาเลีย , เบอิท ฮานูน , และเบอิท ลาฮิยา เพื่อตัดการสื่อสารและอินเตอร์เน็ต ที่จะส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการช่วยเหลือและกู้ภัยใน 3 เมืองดังกล่าว โดยอิสราเอลยังสั่งห้ามการเคลื่อนย้ายทั้งหมดใน 3 เมืองนี้ ยกเว้นครอบครัวชาวปาเลสไตน์ที่เชื่อฟังคำสั่งอพยพของอิสราเอลเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนย้ายเพื่ออพยพออกจาก 3 เมืองนี้ได้