ผู้ปกครองแห่ฟ้องนักการเมือง บังคับเด็กอเมริกันป.5-ม.6 เรียนไบเบิล
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 ตุลาคม) กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน ครู และนักบวช ในโรงเรียนรัฐบาลของรัฐโอคลาโฮมา ยื่นฟ้องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐหยุดนำพระคำภีร์ไบเบิลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6
โดยกลุ่มผู้ปกครองได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีการัฐโอคลาโฮมาเพื่อขอให้ศาลหยุดไม่ให้นาย วอลเตอร์ส ผู้อำนวยการโรงเรียนจากพรรครีพับลิกัน ใช้เงิน 3 ล้านดอลลาร์ ในการซื้อพระคัมภีร์ไบเบิลเพื่อดำเนินการตามโครงการการศึกษาของเขา
คำฟ้องยังระบุด้วยว่า “คำขอเสนอราคา” ฉบับแรกที่กระทรวงศึกษาธิการของรัฐออกเพื่อซื้อพระคัมภีร์ ดูเหมือนจะปรับให้ตรงกับพระคัมภีร์ที่รับรองโดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขายในราคาเล่มละ 59.99 ดอลลาร์ ก่อนที่คำขอเสนอราคาจะถูกแก้ไขในภายหลังตามคำขอของเจ้าหน้าที่จัดซื้อของรัฐ
คำฟ้องกล่าวหาว่าโครงการดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญของรัฐโอคลาโฮมา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้เงินของรัฐเพื่อสนับสนุนศาสนา และสนับสนุนศาสนาหนึ่งเหนืออีกศาสนาหนึ่ง นอกจากนี้คำฟ้องยังกล่าวหาว่าวอลเตอร์สและคณะกรรมการไม่มีอำนาจที่จะกำหนดให้ใช้สื่อการสอน
เอริกา ไรท์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรโรงเรียนในชนบทรัฐโอคลาโฮมา และผู้ปกครองเด็กนักเรียน 2 คน ซึ่งเป็นโจทก์กล่าวว่า “ในฐานะพ่อแม่ ฉันและสามี มีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตัดสินใจว่าลูกๆของเรา ควรเรียนรู้พระคัมภีร์และคำสอนทางศาสนาอย่างไรและเมื่อไร ไม่ใช่หน้าที่ของนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่จะเข้าไปแทรกแซงในเรื่องส่วนตัวเหล่านี้”
วอลเตอร์ส โพสต์แถลงการณ์บนบัญชี X ว่าเขาจะไม่ยอมถอยให้กับพวกตื่นตัวทางสังคม (Woke)
“ความจริงง่าย ๆ คือ การทำความเข้าใจว่าพระคัมภีร์ไบเบิลส่งผลต่อประเทศเราอย่างไร พระคัมภีร์ถือเป็นบรรทัดฐานของอเมริกาจนถึงช่วง ศตวรรษ 1960 และการลบพระคัมภีร์ออกไปนั้นถือเป็นความเสื่อมถอยในโรงเรียนของอเมริกา”
วอลเตอร์ส อดีตครูโรงเรียนรัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งในปี 2022 ลงสมัครภายใต้นโยบายต่อต้าน
“อุดมการณ์ตื่นรู้” (Woke Ideology) และ “กลุ่มซ้ายจัด” (Radical Leftists) เขาสั่งกำจัดหนังสือที่เกี่ยวกับอุดมการณ์ดังกล่าวออกจากห้องสมุดโรงเรียนรัฐบาล โดยเขาอ้างว่าอุดมการณ์เหล่านี้นี้ปลูกฝังความคิดผิดๆให้เด็กในห้องเรียน
ข่าวแนะนำ
