TNN MADOFF มหากาพย์ 'เจ้าพ่อแชร์ลูกโซ่' เชิญชวนลงทุน สูญเสียกว่า 2 ล้านล้านบาท

TNN

World

MADOFF มหากาพย์ 'เจ้าพ่อแชร์ลูกโซ่' เชิญชวนลงทุน สูญเสียกว่า 2 ล้านล้านบาท

MADOFF มหากาพย์ 'เจ้าพ่อแชร์ลูกโซ่' เชิญชวนลงทุน สูญเสียกว่า 2 ล้านล้านบาท

“Bernie Madoff” เจ้าพ่อแชร์ลูกโซ่ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงที่สุดในโลก ร่วม 65,000 ล้านเหรียญ ..​ มาทำความรู้จักลู่ทางฉ้อโกง ของเจ้าพ่อแชร์ลูกโซ่แห่งอเมริการายนี้กัน

นี่คือเรื่องราวของ Bernard Lawrence “Bernie” Madoff นักการเงินชาวอเมริกัน ที่เป็นผู้ทำ “แชร์ลูกโซ่” วงใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ หลอกลวงนักลงทุนหลายพันคน จนมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 65,000 ล้านดอลลาร์ (กว่า 2 ล้านล้านบาท) ตลอดระยะเวลาโกงเกือบ 30 ปี!


Madoff เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ตลาดหุ้น Nasdaq และยังเป็นประธานตลาดหุ้น Nasdaq ในช่วงต้นทศวรรษ 1990s ถึง 3 สมัยอีกด้วย 


Madoff เกิดในบรูคลิน มหานครนิวยอร์ก ในปี 1938  พ่อของเขา Ralph Madoff เป็นช่างประปา ก่อนที่จะผันตัวมาเข้าตลาดการเงิน 


Bernie จบป.ตรี จากวิทยาศาสตราการเมือง จากมหาวิทยาลัย Hofstra ในปี 1960  และเข้าเรียนโรงเรียนกฎหมาย Brooklyn Law School  ก่อนจะก่อตั้ง Bernard L. Madoff Investment Securities LLC ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายหุ้น ด้วยเงินกว่า 50,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินที่เขาได้มาจากการทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และยังกู้เงินมาจากพ่อตาของเขาเองด้วย


โดยมี Carl J. Shapiro นักธุรกิจอเมริกัน เป็นลูกค้ารายแรก ๆ ลงทุนกว่าแสนเหรียญ กับบริษัทของ Madoff


เขาจึงเริ่มมีชื่อเสียงกับการที่บริษัทเขาสามารถซื้อ-ขายหุ้นขนาดเล็ก ที่เรียกกันว่า Penny Stocks - ก่อนที่จะถึงจุดเปลี่ยน ในยุคปี 1960 ซึ่ง Bernie เป็นผู้บุกเบิกระบบการให้ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือการแสดงราคาเคลื่อนไหวของตลาด ที่นับว่าล้ำสุด ๆในยุคนั้น 


ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง และได้รับตำแหน่งสูง ๆ ในสถาบันการเงิน อีกทั้งยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งตลาดหุ้น Nasdaq  และสำคัญที่สุด คือ ได้เป็นประธานตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ถึง 3 สมัย!


และนั่นเองที่ทำให้เขามีภาษี ได้รับความไว้วางใจจากบรรดานักลงทุนต่าง ๆ เพราะมีตำแหน่ง มีบทบาทสำคัญ แต่หารู้ไม่..นั่นเองที่กลายเป็นกัปดักหลอกเหยื่อ


 ใช้ “ความดัง” เป็นกลยุทธ์ล่อลวงเหยื่อลงทุน


และนั่นคือจุดเริ่มต้นของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ของ Bernie Madoff ที่ดำเนินต่อเนื่องยาวนานถึง 30 ปี


ในช่วงทศวรรษ 1980 Madoff ได้ก่อตั้งแผนกเงินทุนเอกชน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุน - นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้น “การดึงคนเข้าสู่หลุมพราง” ของการลงทุนของ Madoff และใช้เป็นโอกาสสร้างกำไรมหาศาลให้ตนเอง ผ่านการ “ลวงลูกค้าที่เข้ามาปรึกษา” ในแผนกที่ปรึกษาด้านเงินทุนกับบริษัทของเขา .. เพื่อให้เข้ามาลงทุนกับเขา โดยรับประกันว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูง 10-20% เลยทีเดียว


Madoff มีเพื่อนเป็นคนในสังคมไฮโซ นักธุรกิจ คนดังมากมาย ชักเชิญมาลงทุน จ่ายทดแทนแสนจะงาม และใช้ความดังของคนเหล่านี้ เป็นตัวดึงดูดให้มีผู้เข้ามาลงทุนไปเรื่อย ๆ  - และยิ่งมีผู้เข้ามาลงทุนมากขึ้น ..เงินของพวกเขา ก็จะถูกเอาไปจ่ายให้กับนักลงทุนคนอื่น ๆ 


Madoff อ้างว่า เขาทำกำไรด้วยกลยุทธ์ “Split-Strike Conversion” กับการซื้อหุ้นราคาถูกจำนวนมาก มาทำให้ได้กำไร ..แต่ก็มีการตกแต่งบัญชีให้เห็นถึงผลกำไรด้วย


แต่นั่นหาใช้การทำเงินมหาศาลของเขาไม่.. เพราะภายใต้หน้ากาก “นักการเงินคนดัง” เขากลับใช้วิธีการแบบ “แชร์ลูกโซ่” นั่นคือ การเอาเงินของนักลงทุนคนใหม่ มาจ่ายให้กับคนก่อน ๆ และเพื่อล่อลวงนักลงทุนคนต่อ ๆ ไปให้เขามาร่วมลงทุนกับเขามากขึ้นเรื่อย ๆ  


เหยื่อมีมากมาย มีทุกระดับ ตั้งแต่ชาวบ้าน ตาสีตาสา นักธุรกิจ นักลงทุน ไปจนถึงคนดังในวงการบันเทิง ซึ่งรวมถึงสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก ผู้กำกับดังด้วย 


จุดจบ “แชร์ลูกโซ่” Madoff


กว่า 20 ปีที่กองทุนแชร์ลูกโซ่ของ Bernie Madoff ดำเนินการมาเรื่อย ๆ และเขาสามารถสร้างรายได้กว่าพันล้านในแต่ละปี


แต่แม้จะแยบยลอย่างไร ก็ต้องมีความผิดปกติให้ได้เห็น และโดยเฉพาะ “ผลกำไรที่เกินจริง”


Harry Markopolos นักวิเคราะห์ทางการเงินที่ได้รับการขนานนามว่า “นิติบัญชีศาสตร์” (Forensic Accountant) มองเห็นความผิดปกตินี้ โดยเฉพาะคำอวดอ้างที่ว่าบริษัทของ Madoff สามารถทำเงินได้มหาศาล ทั้งที่ดัชนี S&P ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะตกลงแค่ไหนก็ตาม - เขาจึงได้แจ้งหน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ตั้งแต่ปี 2000 แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใด ๆ - จนกระทั่งปี 2005 ที่ทาง SEC ขอเอกสารบัญชีซื้อขายของ Madoff แต่เขาก็สร้างบัญชีขึ้นมาใหม่เพื่อให้หลุดข้อสงสัยดังกล่าว


จนกระทั่งเกิดวิกฤตซับไพร์มในปี 2008 เศรษฐกิจตกต่ำ ดัชนี S&P500 ลดลงถึง 39% คนแห่ถอนเงินลงทุนจากกองทุนของ Bernie Madoff - และเมื่อสุดท้ายไม่สามารถจ่ายเงินได้ ความจริงก็จึงปรากฎ 


ผลกำไรทั้งหมดคือเรื่องโกหก และทุกสิ่งที่ Madoff ทำคือ “แชร์ลูกโซ่” 


ท้ายสุดในปี 2009 Bernie Madoff ถูกพิพากษาจำคุก 150 ปี และถูกริบทรัพย์สินแสนกว่าล้านดอลลาร์ - เขาเสียชีวิตในคุกเมื่อเดือนเมษายน 2021 ในวัย 82 ปี หลังจากที่ชดใช้ความผิดในเรือนจำไปเพียง 12 ปีเท่านั้น  - ส่วนลูกชายคนโต Mark Madoff ฆ่าตัวตายสองปีหลังพ่อเขาถูกดำเนินคดี 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง