อิสราเอลยังล้อมกาซาเหนือเป็นวันที่ 9 ขณะที่ยังสู้กับฮิซบอลเลาะห์ต่อเนื่อง

กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล (IDF) หรือ กองทัพอิสราเอล นำกำลังโอบล้อมและบุกโจมตีพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซาต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 แล้ว ส่งผลให้จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 300 ราย จากปฏิบัติการดังกล่าว ในขณะที่ประชาชนชาวปาเลสไตน์จำนวนหลายหมื่นคนที่ยังคงติดอยู่ในพื้นที่ ก็กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนอาหารและน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ท่ามกลางสถานการณ์ที่กองทัพอิสราเอลนำกำลังบุกภาคพื้นดิน รวมถึงใช้การโจมตีทางอากาศใส่พื้นที่ดังกล่าว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีคำสั่งอพยพจากกองทัพอิสราเอล และทำให้ผู้คนจำนวนมากตัดสินใจอพยพออกจากพื้นที่แล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า กองทัพอิสราเอลส่งรถถังไปโจมตีโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ถูกใช้เป็นสถานลี้ภัยสำหรับผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์ในค่ายนูเซรัต ทางตอนกลางของฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย และบาดเจ็บอีกราว 80 คน

ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ก็ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงเช่นกัน โดยทางฮิซบอลเลาห์ ได้ส่งโดรนเข้ามาโจมตีพื้นที่ตอนเหนือและตอนกลางของอิสราเอลตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ส่งผลให้มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังระงมขึ้นทั่วพื้นที่ รวมถึงมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ ๆ โดยมีรายงานว่า ทหารอิสราเอลเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวอย่างน้อย 4 ราย และมีผู้คนได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 60 คน ในจำนวนนี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นทหารและพลเรือนอย่างละกี่คน

ขณะที่แดเนียล ฮาการี โฆษกประจำกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล ก็ออกมาระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุที่สัญญาณเตือนภัยไม่แจ้งเตือนเรื่องที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ส่งโดรนเข้ามาโจมตีในดินแดนอิสราเอลเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ขึ้น และทางอิสราเอลก็จำเป็นต้องยกระดับการป้องกันขึ้นอีก

ขณะเดียวกัน โยอาฟ อัลแลนต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ก็ออกมาระบุเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ไม่ได้รับอนุญาตให้นำกำลังกลับมายังหมู่บ้านต่าง ๆ ที่อยู่ตอนใต้เลบานอน ที่ติดกับชายแดนอิสราเอลอีก พร้อมกับขยายคำสั่งอพยพไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ก็ออกมาเตือนให้ยูเอ็น ถอนกำลังทหารรักษาสันติภาพที่อยู่ตอนใต้ของเลบานอนออกจากพื้นที่ พร้อมกับเตือนว่าพวกเขาตกอยู่ในอันตราย

ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่เป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล ก็ออกมาระบุว่า พวกเขาได้ส่งทหารราว 100 นาย เข้าไปในดินแดนอิสราเอล เพื่อติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง หรือ ทาด (THAAD) ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อย ที่สหรัฐฯ จะส่งทหารเข้าไปยังดินแดนอิสราเอล อย่างไรก็ตาม จำนวนทหารที่ส่งไปก็สอดคล้องกับปฏิบัติการดังกล่าว

ขณะที่อิหร่าน ก็อยู่ระหว่างเตรียมรับมือกับการโจมตีจากกองทัพอิสราเอล ที่ก่อนหน้านี้ออกมาประกาศว่าจะเอาคืนอิหร่านอย่างสาสมกรณีที่อิหร่านโจมตีดินแดนอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้อิหร่านจะให้เหตุผลว่าเป็นการตอบโต้เรื่องที่อิสราเอลโจมตีเลบานอน และสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ก็ตาม 

ขณะที่ ซาเอ็ด อับบาส อารัคชี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ก็ออกมาระบุว่า อิหร่านไม่มีเส้นตาย หรือ ข้อจำกัดเรื่องการปกป้องประชาชนและผลประโยชน์ของตนเอง พร้อมกับส่งสารเตือนไปยังสหรัฐฯ ว่าอิหร่านจะไม่อยู่เฉยและตอบโต้ทุก ๆ การโจมตีที่มาจากอิสราเอล พร้อมกับยืนยันว่า อิหร่านใช้ความพยายามอย่างมากในการควบคุมสถานการณ์สงครามและเหตุขัดแย้งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง

—————

ภาพ: Reuters