นายกฯ เสียใจแรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอล สั่งกต.ติดตามให้ความช่วยเหลือ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของคนไทยที่อิสราเอล ว่า "ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต รัฐบาลจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดูแลพี่น้องคนไทยอย่างดีที่สุด"

เช่นเดียวกับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทวิตข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุ การณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า" ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของคนไทยที่อิสราเอลในวันนี้ ซึ่งได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีแล้วว่า สถานการณ์ดังกล่าวเกิดจากเหตุระเบิดตกค้าง และนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สถานทูตฯ ติดตามเรื่องการยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตและแจ้งครอบครัวโดยเร็ว รวมทั้งประสานฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือครอบครัว และเร่งตรวจสอบ เพื่ออพยพคนไทยในพื้นที่"

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกแถลงการณ์แจ้งเตือนคนไทยว่า หากมีแรงงานไทยที่ยังอยู่ในเขตปิดทางทหาร หรือพื้นที่เสี่ยงอันตรายอื่น ๆ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการย้ายออกจากพื้นที่ 

ขณะที่ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่ากระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่า ทางการอิสราเอลตรวจสอบแล้วและพบว่า สาเหตุเกิดจากระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่จากเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถังดังปรากฏตามข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้เสียชีวิตก่อนจะแจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป ส่วนแรงงานไทย 1 ราย ที่ได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง Safed ทางเหนือของอิสราเอลแล้ว และสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

สถานเอกอัครราชทูตฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ในนิคมเกษตรดังกล่าว มีคนไทยประมาณ 10 คน และได้ประสานทางการอิสราเอลให้อพยพคนไทยทั้งหมดออกจากพื้นที่ในทันทีแล้ว  นอกจากนี้ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลอีกครั้งแล้วว่า หากยังมีแรงงานไทยอยู่ในเขตปิดทางทหารหรือพื้นที่เสี่ยง และมีความยากลำบากในการย้ายออกจากพื้นที่ ขอให้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อประสานงานกับทางการอิสราเอลในการย้ายออกพื้นที่ต่อไป

ภาพจาก: รัฐบาลไทย